11 ต.ค. 62 10:23 น. สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

  สำนักข่าวบลูมเบิร์กรายงานว่า ประธานาธิบดี โดนัลล์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ เผยว่าการเจรจาการค้า ระหว่างสหรัฐฯ และ จีนในวันแรก (10 ต.ค.) ผ่านพ้นไปได้ด้วยดี ซึ่งผู้นำสหรัฐฯมีแผนที่จะพบกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีนในวันนี้ (11 ต.ค.) 

  โดยการเจรจาการค้าในครั้งนี้เป็นการพบกันระหว่างนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีน กับนายสตีเว่น มนูชิน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ และ นายโรเบิร์ต ไลท์ไฮเซอร์ ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ซึ่งเป็นการเจรจาต่อจากการเจรครั้งล่าสุดที่เมืองเซี่ยงไฮ้เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา โดยมีเป้าหมายเพื่อยุติสงครามการค้าที่ยาวนานกว่า 18 เดือน ซึ่งส่งผลกระทบกับเศรษฐกิจทั่วโลก รวมถึงเศรษฐกิจของสหรัฐฯ และ จีน ก็ได้รับผลกระทบเช่นเดียวกัน

  ผู้นำสหรัฐฯ ระบุว่า การเจรจาการค้าในครั้งนี้ผู้แทนการค้าสหรัฐฯ ทำได้ดี และการเจรจาคืบหน้าเป็นอย่างมาก ซึ่งปธน.ทรัมป์ เผยว่าเขามีกำหนดการที่จะพบกับนายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีของจีนวันนี้ 

  โดยสหรัฐและจีนมีความตั้งใจที่จะทำข้อตกลงการค้าบางส่วนในการเจรจาครั้งนี้ ซึ่งทำให้สถานการณ์ของสงครามการค้าของทั้งสองประเทศดีขึ้น อย่างไรก็ตามสถานการณ์ของทั้งสองประเทศกลับแย่ลงอีกครั้งหลังสหรัฐฯได้กดดันจีนด้วยการขึ้นบัญชีดำ 28 บริษัท และระงับวีซ่าเจ้าหน้าที่จีน โดยให้เหตุผลในเรื่องการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงการที่ผู้นำสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันว่า สหรัฐฯจะทำข้อตกลงที่สมบูรณ์ ก็ต้องเมื่อจีนนำเอาการป้องกันการขโมยทรัพย์สินทางปัญญามารวมอยู่ในข้อตกลงในครั้งนี้ด้วยเท่านั้น

  ขณะที่เจ้าหน้าที่ของจีนรายหนึ่ง เผยว่าทางรัฐบาลจีนพร้อมที่จะเจรจาเกี่ยวกับการทำข้อตกลงการค้า ซึ่งรวมถึงการซื้อสินค้าเกษตรจำนวนจากสหรัฐฯ ตราบใดที่รัฐบาลของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ไม่ได้เพิ่มการจัดเก็บภาษีต่อจีน ซึ่งรวมถึงแผนการเพิ่มอัตราภาษีต่อสินค้านำเข้าจากจีนที่มีกำหนดในเดือนนี้ และเดือนธันวาคม

  ทั้งนี้หากการเจรจาครั้งนี้ประสบความล้มเหลว สหรัฐฯ จะทำการเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่้มขึ้นจาก 25% เป็น 30% เป็นวงเงินกว่า 1.5 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งจะมีผลในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ นอกจากนี้จะมีการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนเพิ่มเติมอีก 1.6 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 15 ตุลาคม ซึ่งทางจีนก็ส่งสัญญาณว่าจะโต้ตอบด้วยการเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน

รายงาน    ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ 
อนุมัติ     พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน 

CR: Efinancethai