BHP กำไรดีสุดในรอบ 11 ปี รับอานิสงส์ราคาถ่านหินพุ่งหลังรัสเซียบุกยูเครน

infoquest

บีเอชพี กรุ๊ป (BHP Group) บริษัทเหมืองแร่ใหญ่ที่สุดในโลกตามมูลค่าตลาดรายงานผลกำไรที่ดีเกินคาด โดยได้อานิสงส์จากราคาสินค้าโภคภัณฑ์ที่พุ่งขึ้น อย่างไรก็ดี บีเอชพีประสบความล้มเหลวในการเข้าซื้อกิจการบริษัทออซ มิเนอร์รัลส์ (OZ Minerals) เป็นครั้งที่สอง

สำนักข่าวรอยเตอร์รายงานว่า หุ้นบีเอชพีพุ่งขึ้น 5.5% ขานรับผลกำไรที่พุ่งขึ้นถึง 26% แตะที่ 2.13 หมื่นล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2554

นอกจากนี้ ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นยังได้รับปัจจัยบวกจากการที่บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลรอบสุดท้ายของปีงบประมาณสิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.ถึง 1.75 ดอลลาร์/หุ้น ซึ่งจะทำให้ยอดเงินปันผลทั้งปีสูงเป็นประวัติการณ์ถึง 3.25 ดอลลาร์/หุ้น

ผลกำไรที่ดีเกินคาดนี้ได้รับแรงหนุนจากธุรกิจถ่านหินที่ราคาพุ่งแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์หลังรัสเซียบุกยูเครน โดยบีเอชพีกล่าวว่า ผลประกอบการดังกล่าวสะท้อนถึงราคาถ่านหินและทองแดงที่ปรับตัวสูงขึ้น และการควบคุมต้นทุนอย่างมีวินัยของทางบริษัท

ด้วยเงินทุนจำนวนมากและความคล่องตัวที่มากขึ้นหลังถอนตัวออกจากตลาดหลักทรัพย์ลอนดอนจนกลายเป็นบริษัทจดทะเบียนในตลาดหุ้นออสเตรเลียเพียงแห่งเดียว บีเอชพีจึงทำคำเสนอซื้อกิจการออซ มิเนอร์รัลส์ ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองทองแดงและนิกเกิลอีกเป็นครั้งสองเมื่อวันที่ 8 ส.ค.ในราคา 8.34 พันล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย (5.8 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) อย่างไรก็ดี ออซได้ปฏิเสธข้อเสนอดังกล่าว

ขณะเดียวกัน บริษัทเหมืองแร่คู่แข่งอย่างริโอ ทินโต รายงานผลกำไรครึ่งปีแรกลดลง 29% และประกาศจ่ายเงินปันผลลดลงมากกว่าครึ่งในเดือนก.ค. โดยอ้างว่ามีสาเหตุมาจากดีมานด์จากจีนที่อ่อนแอลง และซัพพลายเชนที่หยุดชะงัก

โดย สำนักข่าวอินโฟเควสท์