นักเศรษฐศาสตร์คาดเฟดอาจขึ้นลดลงในเดือน ก.ย. หลังเงินเฟ้อสหรัฐชะลอตัว

30 พ.ค. 65 13:13 น. สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

  สำนักข่าวรอยเตอร์ รายงานว่า นักเศรษฐศาสตร์ของสหรัฐฯได้คาดการณ์ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯมีแนวโน้มชะลอตัว หลังจากกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐฯ เปิดเผยดัชนีราคารายจ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล  (Personal Consumption Expenditures หรือ PCE ) ประจำเดือนเม.ย.ที่เพิ่ม 6.3% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ลดลงจากเดือนมี.ค.ที่เพิ่มขึ้น 6.6% และอาจทำให้เฟดขึ้นดอกเบี้ยลดลงในเดือน ก.ย.

  Dan Hadden นักเศรษฐศาสตร์ของ Jupiter Asset Management กล่าวว่าจากรายงานดัชนี PCE ในเดือนเม.ย. บ่งชี้ว่าอัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯกำลังชะลอตัว ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบกับนโยบายการเงินของเฟดที่จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยที่ 0.50% ในเดือนมิ.ย. และ ก.ค. แต่อาจทำให้เฟดปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยลดลงในเดือน ก.ย. โดยการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยดังกล่าวอาจทำให้อัตราเงินเฟ้อของสหรัฐฯลดลงมาอยู่ที่ระดับ 4% ในปีนี้ แต่ยังสูงกว่าเป้าหมายที่เฟดได้วางไว้ที่ 2%

    ตลาดหุ้นของสหรัฐฯ ปรับเพิ่มขึ้นตลอดทั้งสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากนักลงทุนได้คลายความกังวลเกี่ยวกับอัตราเงินเฟ้อภายในประเทศ รวมถึงการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนในสหรัฐฯส่วนใหญ่ที่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ ซึ่งนักลงทุนในสหรัฐฯคาดหวังว่าเฟดจะหาทางออกในการแก้ปัญหาเงินเฟ้อโดยสร้างความเสียหายให้กับเศรษฐกิจของประเทศน้อยที่สุดได้

  ทั้งนี้ FED ได้คาดการณ์ว่าดัชนี PCE จะลดลงมาอยู่ที่ 4.3% ภายในสิ้นปีนี้ และลดลง 2.5% ภายในสิ้นปี 2023 เนื่องจากสถานการณ์ทางการเงินที่ตึงตัวทั่วประเทศ

รายงาน    ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ 
เรียบเรียง  ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ 
อนุมัติ     พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน 

Cr. efiancnethai