14 ต.ค. 64 17:43 น. สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

    ผู้นำด้านการเงินจากกลุ่มประเทศเศรษฐกิจชั้นนำของโลกทั้ง 7 แห่ง (G7) ได้พบปะกันที่กรุงวอชิงตันเมื่อวันที่ 13 ต.ค. ที่ผ่านมา เพื่อหารือเกี่ยวกับสกุลเงินดิจิทัลของธนาคารกลาง (CBDC)   

          G7 ซึ่งประกอบด้วยประเทศแคนาดา ฝรั่งเศส เยอรมนี อิตาลี ญี่ปุ่น สหราชอาณาจักร และสหรัฐอเมริกา เปิดเผยในแถลงการณ์ร่วมว่า สกุลเงินดิจิทัลที่ออกโดยธนาคารกลางใดๆ จะต้องไม่เป็นอันตรายต่อความสามารถของธนาคารกลาง ในการรักษาเสถียรภาพทางการเงิน

          “การประสานงานระหว่างประเทศอย่างเข้มแข็ง และความร่วมมือในประเด็นเหล่านี้ ช่วยให้มั่นใจว่านวัตกรรมของภาครัฐและเอกชนจะส่งมอบผลประโยชน์ทั้งในประเทศและข้ามพรมแดน ขณะเดียวกันก็ปลอดภัยสำหรับผู้ใช้งานและระบบการเงินในวงกว้าง” แถลงการณ์ระบุ

          และเสริมว่า CBDC จะเข้ามาเสริมกับการใช้เงินสด และสามารถทำหน้าที่เสมือนสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องและปลอดภัย นอกเหนือจากระบบการชำระเงินที่มีอยู่สกุลเงินดิจิทัลจะต้องประหยัดพลังงาน และสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างเต็มที่ข้ามพรมแดน

          ในขณะที่ CBDC สามารถเข้ามายกระดับความสามารถในการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนได้ ดังนั้น ประเทศในกลุ่ม G7 จึงมีหน้าที่ช่วยกันลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับระบบการเงินและการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งการออก CBDC ควรมีพื้นฐานมาจากคำมั่นสัญญาสาธารณะ เพื่อความโปร่งใส หลักนิติธรรม และธรรมาภิบาลทางเศรษฐกิจที่ดี

          อย่างไรก็ตามประเทศ G7 ยังไม่ได้ออก CBDC แต่ก็มีหลายแห่ง เช่น สหราชอาณาจักร กำลังค้นคว้าเกี่ยวกับเทคโนโลยีและผลกระทบทางเศรษฐกิจจาก CBDC

          สะท้อนคำแถลงที่คล้ายกันโดยกลุ่มที่ใหญ่กว่าอย่าง G20 พวกเขาย้ำว่าไม่มีโครงการ stablecoin ระดับโลกใดๆ ควรเริ่มดำเนินการ ตราบจนกว่าจะมีการจัดการกับข้อกำหนดทางกฎหมาย ระเบียบข้อบังคับ และการกำกับดูแล ซึ่งความคิดเห็นนี้อาจอ้างอิงไปถึง Diem คริปโทเคอร์เรนซีที่วางแผนไว้ของ Facebook ซึ่งได้ถูกต่อต้านจากผู้นำด้านการเงินและนายธนาคารกลางต่างๆ ทั่วโลก

          สหรัฐฯ ยืนกรานกับแผน CBDC และธนาคารกลางสหรัฐยังคงสงสัยอย่างมากเกี่ยวกับดอลลาร์ดิจิทัล ตามที่รายงานโดย Cointelegraph ในเดือนกันยายน อเมริกากำลังตกอยู่ในอันตรายที่จะถูกทิ้งไว้เบื้องหลังทางเทคโนโลยีและการเงิน หากไม่เริ่มพิจารณา CBDC ของตนเองอย่างจริงจัง

          ส่วนประเทศจีน นำหน้าด้วยหยวนดิจิทัลอยู่แล้ว และการปราบปรามคริปโทครั้งล่าสุด น่าจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนการครั้งใหญ่ ในการส่งเสริมและควบคุมการหมุนเวียนของเงินตรา

ที่มา : cointelegraph

เรียบเรียง  ชัชชญา อังคุลี 
                อีเมล์. chatchaya@efinancethai.com
อนุมัติ     ดาริน ปริญญากุล 

Cr.efinancethai