24 ก.ค. 63 13:04 น. สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

  สำนักข่าว CNBC รายงานว่า Intel เปิดเผยผลประกอบการไตรมาสที่ 2/2020 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1.97 หมื่นล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้นจาก 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว และมีผลกำไรสุทธิอยู่ที่ 5.1 พันล้านดอลลาร์ ขณะที่กำไรต่อหุ้น (EPS) อยู่ที่ 1.23 ดอลลาร์ต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 16% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

    บ็อบ สวอน ประธานบริหาร Intel กล่าวว่าเป็นไตรมาสที่ยอดเยี่ยมของ Intel และเป็นสิ่งที่เหนือความคาดหมาย ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้ผลประกอบการในไตรมาสที่สองเพิ่มขึ้นนั้นเป็นผลมาจากความต้องการคอมพิวเตอร์ที่เพิ่มสูงขึ้่นในช่วงของการระบาดของไวรัสโควิด-19

              รายได้จากกลุ่มสินค้าที่เกี่ยวกับพีซี (PC-Centric)อยู่ที่ 9.4 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 7% ขณะที่รายได้จากกลุ่มศูนย์ข้อมูล (Data Center) อยู่ที่ 7.1 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 43% และรายได้ในกลุ่มหน่วยความจำโซลูชั่น (The Non-Volatile Memory Solutions) อยู่ที่ 1.6 พันล้านดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 76% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว

        นอกจากนี้ CEO Intel กล่าวเพิ่มเติมว่า บริษัทได้ตัดสินใจเลื่อนการออกชิปที่ใช้ในซีพียู 7 นาโนเมตรออกไป โดยคาดว่าจะเลื่อนออกไปเป็นระยะเวลา 6 เดือนจากที่เคยให้ข้อมูลก่อนหน้านี้ เนื่องจากประสบปัญหาด้านการผลิต ทำให้แผนเปิดตัวซีพียูรุ่นดังกล่าวเลื่อนไปราว 12 เดือนที่จากเคยระบุไว้ตอนแรกโดย Intel ได้คาดการณ์ว่าจะสามารถจัดส่งสินค้าได้ภายในช่วงปลายปี 2022 หรือต้นปี 2023

          ทั้งนี้ Intel ได้ปรับคาดการณ์เป้าหมายรายได้ของบริษัทใหม่ในปีนี้ โดยคาดว่า Intel จะมีรายได้ในปีนี้อยู่ที่ 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือเติบโตเพิ่มขึ้น 4% เพิ่มจากการคาดการณ์ในเดือนม.ค.ที่คาดว่ารายได้ของ Intel จะอยู่ที่ 7.3 หมื่นล้านดอลลาร์

รายงาน    ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ  เรียบเรียง  ภูมินทร์ คิดเลิศล้ำ  อนุมัติ     พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน

CR:Efinancethai