ผู้ป่วยโควิดยังพุ่งใน3รัฐใหญ่ของสหรัฐ กองทัพส่งหมอช่วย

เสาร์ที่ 18 กรกฎาคม 2563 เวลา 09.06 น. เดลินิวส์

3 รัฐใหญ่ที่สุดของสหรัฐ คือแคลิฟอร์เนีย เทกซัส และฟลอริดา ยังคงพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ที่ระดับ 10,000 คนต่อวัน ขณะที่กองทัพสหรัฐเสริมทีมแพทย์ลงพื้นที่ช่วยเหลือ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 17 ก.ค. ว่าสำนักงานสาธารณสุขของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นรัฐมีประชากรมากที่สุดในสหรัฐ รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในรอบวันที่ผ่านมา ยืนยันผู้ติดเชื้ออีก 9,986 คน เพิ่มจำนวนผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 366,164 คน ขณะที่ในวันเดียวกันมีผู้เสียชีวิตอีก 130 คน เพิ่มสถิติผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 7,475 คน

ด้านรัฐเทกซัสซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากเป็นอันดับ 2 ยืนยันการพบผู้ติดเชื้ออีก 10,256 คนในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา เพิ่มสถิติผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 307,572 คน และเสียชีวิตแล้ว 3,735 คน เพิ่มขึ้น 174 คน ส่วนรัฐฟลอริดาซึ่งมีประชากรมากเป็นดับ 3 ของสหรัฐ ยืนยันผู้เสียชีวิตอีก 128 คน เพิ่มสถิติสะสมในส่วนนี้เป็นอย่างน้อย 4,805 คน จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 327,241 คน เพิ่มขึ้น 11,466 คน

  ในเวลาเดียวกัน กองทัพสหรัฐส่งทีมบุคลากรการแพทย์ลงพื้นที่รัฐแคลิฟอร์เนียและรัฐเทกซัสเพิ่มอีก เพื่อช่วยเหลือเจ้าหน้าที่สาธารณสุขท้องถิ่นในการต่อสู้กับโรคโควิด-19 ท่ามกลางการขาดแคลนเครื่องมือแพทย์ ขณะที่นายคาร์ลอส จิมิเนซ นายกเทศมนตรีเขตไมอามี-เดด ซึ่งเป็นที่ตั้งของเมืองไมอามี เมืองใหญ่อันดับ 7 ของสหรัฐ ขยายอำนาจให้แก่เจ้าหน้าที่ดับเพลิง ในการออกใบสั่งค่าปรับผู้ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้า และสถานประกอบการที่ละเลยมาตรการรักษาระยะห่าง  จากปัจจุบันที่ให้เฉพาะตำรวจมีอำนาจนี้

ทั้งนี้ ประชาชนในเขตไมอามี-เดด ที่ไม่สวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ อาจต้องเสียค่าปรับสูงสุด 100 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 3,168 บาท ) และสูงสุด 500 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 15,840 บาท ) สำหรับสถานประกอบการแห่งใดก็ตามซึ่งไม่เคร่งครัดเรื่องการรักษาระยะห่างทางสังคม.

เครดิตภาพ : AP

CR:เดลินิวส์