วันที่ 23 มิถุนายน 2563 – 18:08 น. มติชน

เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน สำนักข่าวบีบีซีรายงานว่า ทารกแฝดสามแรกเกิดในประเทศเม็กซิโกตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขเม็กซิโกชี้ว่าเป็นกรณีที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน โดยผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์กำลังสอบสวนอยู่ว่าทารกแฝดสามนี้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ผ่านทางรกของมารดาในขณะตั้งครรภ์หรือไม่

บีบีซีรายงานว่า ทารกแฝดสามทั้งสามคนนี้ได้คลอดออกมาก่อนกำหนด ที่โรงพยาบาลในรัฐซันลุยส์โปโตซีของเม็กซิโก เมื่อวันที่ 17 มิถุนายนที่ผ่านมา ซึ่งทารกทั้งสามตรวจพบว่าติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในวันที่ออกมาลืมตาดูโลกเลย โดยในจำนวนนี้ 2 คน เป็นเพศชาย 1 และเพศหญิง 1 มีอาการทรงตัว ส่วนแฝดอีกคนที่เป็นเพศชายกำลังรับการรักษาอาการเกี่ยวกับระบบทางเดินหายใจ

โฆษกของคณะกรรมาธิการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขของรัฐซันลุยส์โปโตซีกล่าวว่า ยังไม่พบการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในการเกิดเด็กแฝดขึ้นที่ใดในโลกในขณะนี้ ซึ่งกรณีนี้จะต้องทำการสอบสวนโรคต่อไป

บีบีซีรายงานว่า เท่าที่รู้มีทารกแรกเกิดจำนวนน้อยมากที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 หลังคลอด แต่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขไม่เชื่อว่าการติดเชื้อในลักษณะดังกล่าวจะเกิดขึ้นในกรณีของเด็กแฝดทั้งสามคนนี้ ซึ่งนางโมนิกา แรงเจล มาร์ติเนซ รัฐมนตรีสาธารณสุขกล่าวว่า เป็นไปไม่ได้ที่เด็กแฝดทั้งสามคนนี้จะติดเชื้อไวรัสโคโรนาตอนคลอด อย่างไรก็ตามพ่อแม่ของเด็กแฝดสามนี้กำลังเข้ารับการตรวจหาเชื้อ ซึ่งเจ้าหน้าที่กล่าวว่าพ่อแม่ของเด็กอาจเป็นกรณีของการติดเชื้อที่ไม่แสดงอาการได้

บีบีซีระบุว่า ทารกอาจติดเชื้อไวรัสโคโรนาหลังคลอดออกมาแล้วได้ หากทารกสัมผัสใกล้ชิดกับผู้ที่ติดเชื้อไวรัสโคโรนาอยู่แล้ว ทว่าไวรัสโคโรนายังอาจติดต่อจากแม่สู่ทารกในครรภ์ได้ผ่านทางรก อย่างไรก็ตามความเสี่ยงของแม่และลูกยังอยู่ในระดับต่ำ แม้จะมีบางรายงานชี้ให้เห็นถึงความเป็นไปได้ที่มีมากขึ้นว่าการติดเชื้ออาจทำให้ทารกในครรภ์คลอดก่อนกำหนด กระนั้นยังไม่มีหลักฐานว่าไวรัสโคโรนาจะทำให้เกิดการแท้งลูกหรือส่งผลกระทบต่อพัฒนาการของทารกในครรภ์ แต่ก็ควรป้องกันไว้ก่อนที่หญิงตั้งครรภ์จะต้องปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการหลีกเลี่ยงการสัมผัสใกล้ชิดเพื่อลดโอกาสที่จะติดเชื้อขึ้นได้ โดยหากติดเชื้อผู้เป็นแม่ส่วนใหญ่จะมีอาการไม่รุนแรงนักและรักษาหายได้ ส่วนทารกก็อาจไม่แสดงอาการใดๆเลยได้หากติดเชื้อ

CR:มติชน