จันทร์ที่ 22 มิถุนายน 2563 เวลา 08.15 น. เดลินิวส์

รัฐบาลเยอรมนีมีความกังวลกับอัตราพื้นฐานเฉลี่ยของการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศ ที่เพิ่มขึ้นเกินระดับมาตรฐานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเกี่ยวข้องกับการพบการติดโรคเป็นกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ ที่โรงงานฆ่าสัตว์หลายแห่ง จันทร์

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 22 มิ.ย. ว่าสถาบันโรเบิร์ต ค็อก ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี  รายงานว่าอัตราพื้นฐานเฉลี่ยของการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศอยู่ที่ 2.88 เมื่อวันอาทิตย์ เพิ่มขึ้นจาก 1.79 เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา คิดเป็นสัดส่วนมากถึง 60% หมายความว่า ผู้มีเชื้ออยู่ในร่างกาย 100 คน สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลรอบข้างได้อีก 288 คน

Germany's coronavirus reproduction rate jumps, indicating rising contagion https://t.co/ohUUvvJk25 pic.twitter.com/UogmzVnG73

— Reuters (@Reuters) June 21, 2020

  ทั้งนี้ การควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลนั้น ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐานต้องต่ำกว่า 1 “เป็นช่วงระยะเวลาพอสมควร” ขณะที่แม้นายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล มีท่าทีขัดเจนว่าเธอต้องการบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ “ต่อไปอีกระยะหนึ่ง” แต่ผู้นำเยอรมนีทยอยผ่อนคลายเงื่อนไขหลายประการตั้งแต่ต้นเดือนนี้ เพื่อให้ประชาชน “กลับมาใช้ชีวิตได้อย่างปกติมากขึ้น”

Military personnel and health workers from #Guetersloh combined their efforts on Saturday as they carried out #COVID19 swab tests on employees of #Toennies slaughterhouse and their immediate contacts in Rheda-Wiedenbrueck in front of their homes. #Germany pic.twitter.com/HpFbjZ9gWa

— Ruptly (@Ruptly) June 20, 2020

อย่างไรก็ตาม เยอรมนีพบการแพร่ระบาดแบบเป็นกลุ่มก้อนมากขึ้นตามสถานที่หลายแห่ง ตั้งแต่เดือนพ.ค. ที่ผ่านมา ส่วนใหญ่เป็นโรงฆ่าสัตว์ ล่าสุดคือโรงฆ่าสัตว์ที่เมืองกือเทอร์สโลห์ ในรัฐนอร์ดไรน์-เวสต์ฟาเลิน ทางตะวันตกของประเทศ มีการยืนยันผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เพิ่มจาก 803 คนเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว เป็นมากกว่า 1,300 คน เมื่อวันอาทิตย์ ส่งผลให้รัฐบาลท้องถิ่นสั่งกักตัวกลุ่มเสี่ยงมากกว่า 7,000 คน และสั่งปิดโรงเรียนในเมืองกือเทอร์สโลห์

  ด้านนายเยนส์ ไวด์มันน์ ประธานธนาคารกลางของเยอรมนี กล่าวเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ว่าเศรษฐกิจของประเทศซึ่งมีมูลค่ามากที่สุดในทวีปยุโรป ผ่านพ้นจุดระดับที่ถือว่าแย่ที่สุดนับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สองมาแล้ว แต่แน่นอนว่าต้องใช้เวลาอย่างมากในการฟื้นตัว

  ขณะเดียวกัน ยังเป็นครั้งแรกอย่างเป็นทางการ ที่ไวด์มันน์กล่าวว่าเขาสนับสนุนนโยบายของแมร์เคิล ซึ่งประกาศเมื่อเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา อัดฉีดงบประมาณฉุกเฉิน 1.1 ล้านล้านยูโร ( ราว 38.1 ล้านล้านบาท ) เพื่อช่วยเหลือทุกภาคส่วนในประเทศจากวิกฤติโควิด-19 ถือเป็นวงเงินรักษาเสถียรภาพทางเศรษฐกิจสูงที่สุด นับตั้งแต่การฟื้นฟูเยอรมนีหลังสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง.

เครดิตภาพ : AP

CR:เดลินิวส์