เดินหน้าการท่องเที่ยวสู่อนาคต: การสร้างสมดุลระหว่างความยั่งยืนกับการเติบโตทางเศรษฐกิจ

ดร.รีเบคคา ซานตา มาเรีย[1]
อูรูบัมบา กุสโก ประเทศเปรู
14 มิถุนายน 2024

ความพยายามสร้างความสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอาจเป็นเรื่องท้าทาย แต่แผนกลยุทธ์ควรชี้แนะผู้กำหนดนโยบายและผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรมในวิธีที่ดีที่สุดต่อการประสบความสำเร็จในการมีทั้ง 2 อย่าง

นับตั้งแต่กลุ่มรัฐมนตรีพบกันครั้งล่าสุดที่กรุงเทพฯ ในปี 2022 คณะทำงานด้านการท่องเที่ยวและสมาชิกของเอเปคได้ดำเนินการหลายประการ เพื่อให้แน่ใจว่าภาคนี้จะรักษาวิถีการเติบโต โดยผสมผสานบทเรียนที่ได้รับเมื่อเราฟื้นตัวจากการแพร่ระบาด

โครงการส่วนใหญ่ที่ดำเนินการตั้งแต่ที่เราพบกันครั้งล่าสุดสอดคล้องกับวิสัยทัศน์ปุตราจายา 2040 (APEC Putrajaya Vision 2040) ซึ่งเรียกร้องให้มีการเติบโตที่แข็งแกร่ง สมดุล ปลอดภัย ยั่งยืนและครอบคลุม โครงการต่าง ๆ ยังนำข้อเสนอแนะนโยบายสำหรับการท่องเที่ยวแห่งอนาคต: การท่องเที่ยวเชิงฟื้นฟู (Policy Recommendations for Tourism of the Future: Regenerative Tourism) มาใช้เพิ่มเติม ซึ่งรัฐมนตรีเห็นชอบในปี 2022 สิ่งที่รวมอยู่ในโครงการที่ดำเนินการในปีที่ผ่านมา ได้แก่ การท่องเที่ยวชุมชน เครื่องมือการประเมินการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนสำหรับผู้มาเยือนและปลายทาง กลยุทธ์การฟื้นฟูสีเขียวในการท่องเที่ยวในชนบท การมีส่วนร่วมของเยาวชนในการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและปลอดภัย และการพัฒนาอาชีวศึกษาการท่องเที่ยวที่ยั่งยืน

นอกจากนี้ ยังมีการเปิดตัวเว็บไซต์การท่องเที่ยวชุมชนในเดือนพฤษภาคม 2024 ซึ่งแปลงข้อมูลธุรกิจและผลิตภัณฑ์ของเครือข่ายธุรกิจการท่องเที่ยวขนาดเล็กและขนาดกลางในชนบทที่ดำเนินงานในภูมิภาคเอเปคให้เป็นดิจิทัล

แผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวฉบับใหม่ปี 2025-2029 จะเป็นพิมพ์เขียวของเราสำหรับอนาคตของการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและครอบคลุม สิ่งสำคัญในเรื่องความยั่งยืน คือ เราต้องระลึกว่าเมื่อผู้นำเศรษฐกิจของเอเปคพบกันครั้งแรกในปี 1993 พวกเขามุ่งมั่นที่จะปกป้องสิ่งแวดล้อม การเรียกร้องนี้ได้รับการย้ำโดยผู้นำตลอดหลายปีที่ผ่านมา

อย่างไรก็ตาม ความพยายามสร้างสมดุลระหว่างการเติบโตทางเศรษฐกิจกับความยั่งยืนของสิ่งแวดล้อมอาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้กำหนดนโยบายและผู้มีบทบาทในอุตสาหกรรม เช่น การท่องเที่ยวมักถูกมองว่าเป็นดาบสองคม ในด้านหนึ่ง การท่องเที่ยวเป็นการเปิดรับความงาม ความมั่งคั่งทางประวัติศาสตร์และวัฒนธรรม และสนับสนุนการพัฒนาเศรษฐกิจของชุมชนท้องถิ่นและชนบท ในทางกลับกัน หากไม่ได้รับการจัดการอย่างมีประสิทธิผลก็อาจส่งผลกระทบต่อความงามและชุมชนที่เราต้องการอนุรักษ์ ต่อไปนี้เป็นความท้าทายระหว่างการส่งเสริมกับการอนุรักษ์และการอนุรักษ์ ซึ่งเราได้เรียนรู้อะไรมากมายจากเปรู

การเห็นคุณค่าความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนระหว่างการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนกับการพัฒนาหมายความว่าเราไม่สามารถมีทั้งการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนและคำนึงถึงสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาเศรษฐกิจได้หรือไม่ แผนกลยุทธ์ควรแนะนำเราเกี่ยวกับวิธีที่ดีที่สุดในการประสบความสำเร็จในการมีทั้ง 2 ประการ

เกี่ยวกับผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ดิฉันต้องอ้างอิงถึงโครงการที่นำโดยสหรัฐอเมริกาปี 2023 การประเมินผลกระทบของระดับน้ำทะเลที่เพิ่มขึ้นต่อการเดินทางและการท่องเที่ยวในเอเปค (Assessing the Impact of Rising Sea Levels on Travel and Tourism in APEC Economies) ส่วนสำคัญของโครงการ คือ การสำรวจร่วมกับการท่องเที่ยว การเตรียมพร้อมในกรณีฉุกเฉิน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม และคณะทำงานด้านมหาสมุทรและการประมง เพื่อพิจารณาความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสิ่งที่วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมด้านการท่องเที่ยวของเอเปคสามารถปฏิบัติได้เพื่อจัดการกับผลกระทบดังกล่าว

เมื่อรวมเข้าด้วยกัน ภาคการท่องเที่ยวในระดับสูงมีลักษณะเฉพาะ คือ ทักษะต่ำและมีความไม่เป็นทางการในระดับสูง การเรียกร้องของเปรูทำให้เราสร้างความตระหนักรู้และเพิ่มการมองเห็นของคนงานการท่องเที่ยวนอกระบบนั้นเกิดขึ้นได้ทันท่วงทีจริง ๆ แรงงานนอกระบบ เช่น คนขายอาหารข้างทาง คนขายของที่ระลึก คนขับรถ มัคคุเทศก์อิสระและช่างฝีมือ ล้วนเป็นหัวใจสำคัญของห่วงโซ่อุปทานการท่องเที่ยว แต่พวกเขามักถูกแยกออกจากการอภิปรายในอุตสาหกรรมและเผชิญกับช่องโหว่ที่สำคัญ ผู้หญิงซึ่งเป็นแรงงานด้านการท่องเที่ยวมากกว่าร้อยละ 50 ในภูมิภาคของเรา มักถูกพบในบทบาทที่มีรายได้ต่ำกว่าและไม่เป็นทางการ เช่นเดียวกับผู้ประกอบการพื้นเมืองและผู้พิการ กลุ่มนี้มีความเสี่ยงเป็นพิเศษในช่วงวิกฤต เนื่องจากมักขาดการคุ้มครองทางสังคมและความมั่นคงในการทำงาน

การผนวกรวมยังหมายความว่า การท่องเที่ยวที่สามารถเข้าถึงได้จะต้องเป็นส่วนสำคัญในนโยบายและความคิดริเริ่มด้านการท่องเที่ยวของเรา การท่องเที่ยวที่ไร้สิ่งกีดขวางจะต้องเป็นส่วนหนึ่งของการวางแผนและนโยบายของเราโดยเจตนาและรวมอยู่ในแผนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวปี 2025-2029 ของเรา สำหรับสิ่งนี้ เราไม่จำเป็นต้องสร้างวงล้อขึ้นมาใหม่ เนื่องจากเรามีตัวอย่างมากมายจากสมาชิก เช่นเดียวกับข้อค้นพบของโครงการที่ดำเนินการโดยออสเตรเลียและได้รับการสนับสนุนร่วมจากมาเลเซียและเปรู “People Living with Disability: Best Practice Guidelines for Tourism MSMEs in APEC” เป็นแนวทางสำคัญ นอกจากนี้ ในการสำรวจเมืองต่าง ๆ ในปี 2022 ที่ผู้ทุพพลภาพพบว่าสามารถเดินทางได้สะดวกที่สุด เมืองต่าง ๆ จาก 7 สมาชิกเอเปคของเราติดอยู่ใน 10 อันดับแรก นี่เป็นกำลังใจ แต่เราสามารถทำได้มากกว่านี้ในเรื่องนี้

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว สมาชิกเอเปคได้พิจารณาถึงส่วนสำคัญในการช่วยให้คนงานด้านการท่องเที่ยวของเราเปลี่ยนไปสู่เศรษฐกิจในระบบ ในการแทรกแซง สมาชิกเน้นย้ำถึงความท้าทายในการเข้าถึงการเงิน ความจำเป็นในการเสริมสร้างขีดความสามารถด้านทักษะดิจิทัลและการเงินที่จำเป็น การเข้าถึงเครื่องมือและแพลตฟอร์มดิจิทัล รวมถึงนโยบายด้านสุขภาพและการคุ้มครองทางสังคม เอเปคให้โอกาสในการใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญของผู้ปฏิบัติงานที่หลากหลาย ด้วยเหตุนี้ เราจึงต้องดำเนินการให้มากขึ้นเพื่อให้เกิดความร่วมมือข้ามเวที ในขณะที่เราทำงานเพื่อให้บริการผู้มีส่วนได้เสียของเราได้ดีขึ้น เช่น การทำงานร่วมกับกระบวนการรัฐมนตรีคลังของเอเปค คณะทำงานวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม กลุ่มขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค ตลอดจนองค์การระหว่างประเทศ

ที่มา

Rebecca Sta Maria. (14 June 2024). Driving Tourism Forward: Balancing Sustainability and Economic Growth. Retrieved from https://www.apec.org/press/blogs/2024/driving-tourism-forward–balancing-sustainability-and-economic-growth

แปลและเรียบเรียงโดย

นายศิวศิลป์ จุ้ยเจริญ
นักวิจัยประจำสถาบันอาณาบริเวณศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์


[1] ดร. รีเบคก้า สตา มาเรีย (Dr Rebecca Sta Maria) เป็นผู้อำนวยการบริหารของสำนักเลขาธิการเอเปค