การประชุมว่าด้วยยานยนต์ของเอเปค
เมืองอาเรคิปา ประเทศเปรู
13 พฤษภาคม 2024

เอเปคมีส่วนร่วมในความพยายามต่อการพัฒนาห่วงโซ่อุปทานและมูลค่าของยานยนต์ไฟฟ้าที่ยั่งยืนมากขึ้น ผ่านจัดการกับประเด็นต่าง ๆ เช่น อนาคตของการคมนาคมและการรับประกันการร่วมต่อกลุ่มวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั้งในระดับภูมิภาค รวมทั้งในเครือข่ายการขนส่ง
เซอร์จิโอ เกร์เรโร (Sergio Guerrero) รัฐมนตรีกระทรวงการผลิต (Minister of Production) ของประเทศเปรูกล่าวในที่ประชุมว่าด้วยยานยนต์ Automotive Dialogue ณ เมืองอาเรคิปา เขายืนยันอีกครั้งถึงความมุ่งมั่นของในการสร้างนโยบายที่มีส่วนช่วยการพัฒนาอุตสาหกรรมและภาคการผลิตที่เป็นนวัตกรรม ด้วยหลักทางเทคโนโลยีและความยั่งยืนที่มากขึ้น ซึ่งจะสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับบริษัทขนาดเล็กและขนาดกลาง
“ด้วยวัตถุประสงค์นี้ เรากำลังส่งเสริมนวัตกรรมและการถ่ายทอดเทคโนโลยี เพื่อให้บริษัทต่าง ๆ รวมมาตรฐานคุณภาพในกระบวนการผลิตของตน และสามารถมีส่วนร่วมภายใต้เงื่อนไขที่ดีขึ้นในการค้าโลก” รัฐมนตรีเกร์เรโรกล่าว
“ในแง่นี้ เราเชื่อว่าพื้นที่สำหรับการแลกเปลี่ยนระหว่างภาครัฐและเอกชนจะมีคุณค่าอย่างยิ่งสำหรับการออกแบบและการดำเนินการตามนโยบายที่ดีกว่า ซึ่งมีผลกระทบต่อภาคยานยนต์” รัฐมนตรีเกร์เรโรกล่าวเสริม
การประชุมว่าด้วยยานยนต์ (Automotive Dialogue) เป็นเวทีการประชุมพิเศษที่รวบรวมตัวแทนอาวุโสในอุตสาหกรรมและผู้แทนของรัฐ เพื่อแลกเปลี่ยนมุมมองเกี่ยวกับการพัฒนาในอุตสาหกรรมยานยนต์ของภูมิภาค เป้าหมาย คือ เพื่อส่งเสริมการบูรณาการและพัฒนาความได้เปรียบด้านการแข่งขันของอุตสาหกรรมระดับภูมิภาคอย่างเต็มที่
การเปลี่ยนไปใช้พลังงานไฟฟ้าและการเปลี่ยนแปลงด้านพลังงานกระตุ้นให้เกิดความต้องการทองแดง ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญสำหรับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน (lithium-ion battery) ประเทศเปรูเป็นผู้ผลิตทองแดงรายใหญ่อันดับสองของโลก โดยคาดว่าการผลิตจะสูงถึง 3 ล้านเมตริกตันในปีนี้
“การประชุมครั้งที่แล้วของการประชุมว่าด้วยยานยนต์มุ่งเน้นไปที่การจัดการกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ส่วนในเวลานี้เราจะเน้นและระบุขั้นตอนต่อไปเพื่อส่งเสริมความสามารถในการแข่งขันและการสร้างขีดความสามารถระหว่างวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อการบูรณาการเข้ากับห่วงโซ่การผลิตของเอเปค” หลุยส์ การ์เซีย (Luis Garcia) ประธานร่วมส่วนภาครัฐในที่ประชุมว่าด้วยยานยนต์กล่าว
“การส่งเสริมความครอบคลุมในห่วงโซ่อุปทานและมูลค่าของยานยนต์มีส่วนทำให้เกิดการเติบโตทางเศรษฐกิจในวงกว้างขึ้น และช่วยลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับการพึ่งพาผู้จัดหาหรือภูมิภาคในจำนวนที่จำกัด ทำให้มั่นใจได้ว่าห่วงโซ่อุปทานจะมีความยืดหยุ่นและปรับตัวได้มากขึ้น ซึ่งสามารถปรับให้เข้ากับสภาวะตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป” การ์เซียกล่าวเสริม
“ภาคยานยนต์เป็นส่วนพื้นฐานในโครงสร้างเศรษฐกิจของประเทศเปรู เนื่องจากการสร้างงาน การถ่ายทอดเทคโนโลยีและการดึงดูดการลงทุน” คาร์สเตน คุนเคล (Karsten Kunckel) ประธานร่วมภาคอุตสาหกรรมในที่ประชุมว่าด้วยยานยนต์กล่าว
“อย่างไรก็ตาม การเติบโตของกลุ่มยานพาหนะที่ไม่ได้รับการควบคุมทำให้เกิดปัญหาหลายประการ เช่น ระดับมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมที่สูงขึ้น อุบัติเหตุทางรถยนต์และการจราจรที่ติดขัด” คุนเคลกล่าวเสริม โดยอธิบายว่านโยบายสาธารณะที่สนับสนุนการปรับปรุงให้ทันสมัยจะช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของยานพาหนะเหล่านี้
ที่ประชุมได้รับฟังข้อมูลที่คืบหน้าจากสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค (APEC Business Advisory Council: ABAC) ซึ่งเรียกร้องให้มีความร่วมมือที่เข้มแข็งขึ้นระหว่างสมาชิกเอเปคเพื่อจัดการกับปัญหาการลดคาร์บอนในภาคการขนส่ง สภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปคเน้นย้ำถึงการเสริมสร้างความแข็งแกร่งของห่วงโซ่อุปทานยานยนต์ไฟฟ้าในภูมิภาคเอเปค รวมถึงแร่ธาตุที่สำคัญหรือโลหะทรานซิชัน เพื่อตอบสนองความต้องการยานยนต์ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
การหารือครั้งต่อไปจะจัดขึ้น ณ กรุงลิมา ประเทศเปรูในวันที่ 18-19 สิงหาคม 2024
ที่มา
APEC Automotive Dialogue. (13 May 2024). APEC Drives Toward a Sustainable Electric Vehicle Supply and Value Chain. Retrieved from https://www.apec.org/press/news-releases/2024/apec-drives-toward-a-sustainable-electric-vehicle-supply-and-value-chain
แปลและเรียบเรียงโดย
นายศิวศิลป์ จุ้ยเจริญ
นักวิจัยปฏิบัติการ สถาบันอาณาบริเวณศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
