คณะกรรมาธิการว่าด้วยการค้าและการลงทุนเอเปค
กรุงลิมา ประเทศเปรู, 6 มีนาคม 2024

สมาชิกเอเปคพิจารณาแนวทางเชิงนวัตกรรมและการปรับปรุงเพื่อฟื้นฟูเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก (Free-Trade Area of the Asia-Pacific: FTAAP) ในฐานะเครื่องมือสำคัญต่อการขับเคลื่อนการบูรณาการทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาคของเอเปค
เขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกได้รับการวาดภาพของการเป็นเขตการค้าเสรีที่ครอบคลุมที่สร้างขึ้นจากการดำเนินการระดับภูมิภาคในการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคในปี 2006 ซึ่งเสนอโดยสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค (APEC Business Advisory Council: ABAC) เมื่อ 20 ปีที่แล้ว
ในฐานะเจ้าภาพเอเปค 2024 เปรูกำลังเป็นผู้นำในการขับเคลื่อนวาระนี้ผ่านการหารือหลายเวที ซึ่งสมาชิกจะมีโอกาสแบ่งปันมุมมองของตนเกี่ยวกับวิธีการจุดประกายเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกอีกครั้ง ในฐานะความพยายามร่วมกัน โดยการจินตนาการถึงวิสัยทัศน์ใหม่ สำหรับวิธีการ และการทำงานที่เป็นรูปธรรม
“ในขณะที่เราหลุดพ้นจากโรคระบาด ความท้าทายต่าง ๆ ทั้งการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน การกระจัดกระจายทางเศรษฐกิจยังคงมีอยู่และทำให้เกิดคำถามถึงความเป็นไปได้ของการค้าที่เชื่อมโยงถึงกัน ในฐานะตัวขับเคลื่อนการพัฒนาที่ยั่งยืน” เรนาโต เรเยส (Renato Reyes) เจ้าหน้าที่อาวุโสเอเปคของเปรูกล่าวในการประชุมที่จัดขึ้นในกรุงลิมาเมื่อวันอาทิตย์ (3 มี.ค.) ที่ผ่านมา
เขาเสริมอีกว่า “เรารู้สึกว่ามีความจำเป็นที่จะต้องตั้งแนวทางของเราใหม่อีกครั้งต่อเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกในฐานะปณิธานร่วมกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ขณะที่เราตั้งเป้าที่จะทำให้การค้าเป็นเครื่องมือเพื่อส่งเสริมการรวมกลุ่มทางสังคมและความยั่งยืน”
การหารือ ซึ่งมีเปรูและออสเตรเลียเป็นประธานร่วมกันได้กระตุ้นให้สมาชิกรายงานรายการสิ่งที่เรียกว่าประเด็นการค้าและการลงทุนรุ่นต่อไปให้ทันสมัย เช่น ความมั่นคงทางอาหาร ความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กร สตรี สิ่งแวดล้อม แรงงานและอื่น ๆ
“ปัญหารุ่นต่อไป ส่วนใหญ่กลายเป็นปัญหารุ่นปัจจุบันแล้ว” เรเยสกล่าวต่อ
“ขณะนี้เขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกจำเป็นต้องคำนึงถึงความท้าทายที่เกิดขึ้น เช่น การกระจัดกระจายทางเศรษฐกิจ แนวทางกีดกันทางการค้า การจัดการการค้าระดับอนุภูมิภาคแบบใหม่และวิวัฒนาการของการหารือทางการเมืองที่เกี่ยวข้องทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นนอกเอเปค เช่น การอภิปรายเรื่องการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”
สมาชิกเอเปคแบ่งปันลำดับความสำคัญของตนสำหรับเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกและเรียกร้องการให้ความสำคัญกับการไม่แบ่งแยกด้านการค้าของเอเปค ซึ่งรวมถึงความเท่าเทียมทางเพศ การเพิ่มขีดความสามารถทางเศรษฐกิจของสตรี โอกาสสำหรับชนพื้นเมือง โอกาสสำหรับวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (MSME) และการบูรณาการพวกเขาเข้ากับห่วงโซ่อุปทานระดับโลกมากขึ้น
นโยบายความยั่งยืนและการค้าเป็นประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่งที่เกิดขึ้นประจำ ซึ่งสมาชิกเอเปคต้องการเห็นการทำงานมากขึ้น โดยบางส่วนเรียกร้องให้รวมเอาความรับผิดชอบต่อสังคมขององค์กรเข้าด้วยกัน และความจำเป็นในการเปิดรับโอกาสที่นำเสนอโดยเทคโนโลยีดิจิทัลและการเปลี่ยนแปลงทางการค้าแบบดิจิทัล
อเล็กซ์ ปาร์เล (Alex Parle) จากสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปคให้ข้อมูลเชิงลึกแก่ที่ประชุม โดยเน้นย้ำว่าสมาชิกต่าง ๆ ประสบกับการเติบโตที่เชื่องช้ามากว่าทศวรรษอย่างไร และล่าสุดมีการหยุดชะงักทางการค้าอย่างรุนแรง เช่นเดียวกับแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นสำหรับการกระจัดกระจายของเศรษฐกิจและการที่สมาชิกหันกลับสู่ปัญหาภายใน
ปาร์เลกล่าวเสริมอีกว่า “จากทั้งหมดนี้ ไม่เคยมีความต้องการที่น่าสนใจสำหรับเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกมากนัก เนื่องจากเป็นทั้งความปรารถนาร่วมกันและเป็นกลไกเชิงปฏิบัติในการบูรณาการทางเศรษฐกิจให้ลึกซึ้งและขยายกว้างขึ้น กำหนดเส้นตายสำหรับเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิกคือปี 2040 แต่ด้วยความท้าทายในปัจจุบัน ธุรกิจของเรา ชุมชนของเราและโลกของเรา จึงไม่สามารถที่จะต้องรออีก 16 ปีกว่าทุกอย่างจะลงตัว”
คำแนะนำของสภาที่ปรึกษาธุรกิจเอเปค รวมถึงการระบุอุปสรรคในการใช้ข้อตกลงการค้าเสรี (free trade agreement: FTA) เต็มรูปแบบและแนวทางแก้ไขที่เป็นไปได้ ช่วยให้การดำเนินการและการใช้ประโยชน์มีประสิทธิผลมากขึ้น โดยได้รับการสนับสนุนจากหน่วยงานเลขาธิการวิชาชีพ การใช้กลไกการระงับข้อพิพาทของข้อตกลงเหล่านั้นเพื่อให้แน่ใจว่ากฎมีผลผูกพันและบังคับใช้ได้ และใช้ประโยชน์จากความคิดริเริ่มบูรณาการทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เพื่อช่วยสร้างกรอบของกฎและนโยบายที่คล่องตัว ตอบสนองได้และเหมาะสมกับวัตถุประสงค์
“เรามุ่งมั่นที่จะสร้างความมั่นใจว่าสินค้า บริการ การลงทุนและผู้คนสามารถเคลื่อนย้ายข้ามพรมแดนได้อย่างสะดวก โดยการลดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุน” คริสโตเฟอร์ ตัน (Christopher Tan) ประธานคณะกรรมการเอเปคด้านการค้าและการลงทุนกล่าว
เขาสรุปว่า “มีความท้าทายและแรงกดดันอยู่รอบสมาชิกของเรา และเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเราในการแบ่งปันมุมมองของเราเพื่อพัฒนาวาระเขตการค้าเสรีเอเชียแปซิฟิก ขณะเดียวกันก็ยึดมั่นในหลักการพื้นฐานของเรา ซึ่งสนับสนุนระบบการค้าขายที่อิงระบบกฎเกณฑ์และองค์การการค้าโลก ซึ่งสนับสนุนระบบการค้าที่เชื่อมโยงถึงกันมากขึ้น ตลอดจนรับบทบาทอันเป็นเอกลักษณ์ของเอเปคในฐานะผู้บ่มเพาะแนวคิด”
รายการอ้างอิง
APEC Committee on Trade and Investment. (6 March 2024). APEC Members Pursue New Approaches to Reignite the FTAAP. Retrieved from https://www.apec.org/press/news-releases/2024/apec-members-pursues-new-approaches-to-reignite-the-ftaap
แปลและเรียบเรียงโดย
นายศิวศิลป์ จุ้ยเจริญ
นักวิจัยสถาบันอาณาบริเวณศึกษา
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์
