17 ต.ค. 2566 11:58 โดย: ผู้จัดการออนไลน์

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ หารือกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู แห่งอิสราเอล ระหว่างการประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติครั้งที่ 78 ณ นครนิวยอร์กประธานาธิบดี โจ ไบเดน แห่งสหรัฐฯ จะเดินทางเยือนอิสราเอลในวันพุธ (18 ต.ค.) ขณะที่กองทัพอิสราเอลเตรียมยกระดับปฏิบัติการทำลายล้างกลุ่มฮามาสให้สิ้นซากจนจุดชนวนวิกฤตมนุษยธรรมครั้งใหญ่ในฉนวนกาซา และทำให้หลายฝ่ายกังวลว่าจะเป็นการดึง “อิหร่าน” เข้าร่วมวงสงครามครั้งนี้
การเยือนของ ไบเดน ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดเจนว่าสหรัฐฯ พร้อมยืนเคียงข้างอิสราเอลซึ่งเป็นพันธมิตรสำคัญที่สุดในตะวันออกกลาง หลังจากที่กลุ่มติดอาวุธฮามาสบุกจู่โจมตอนใต้ของอิสราเอลแบบไม่ทันตั้งตัวเมื่อเช้าตรู่วันที่ 7 ต.ค. และสังหารพลเมืองอิสราเอลไปถึง 1,300 คน นับเป็นวันที่อิสราเอลต้องเผชิญการสูญเสียนองเลือดมากที่สุดในรอบ 75 ปี
รัฐบาลเทลอาวีฟแก้แค้นด้วยการปิดล้อมฉนวนกาซาแบบเบ็ดเสร็จ ปิดกั้นการนำเข้าเชื้อเพลิง น้ำ อาหาร และยารักษาโรคสู่พลเมืองปาเลสไตน์กว่า 2 ล้านชีวิต และยังเปิดฉากโจมตีทางอากาศอย่างหนักหน่วง สถานการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลให้ชาวปาเลสไตน์บาดเจ็บล้มตายไปหลายพันคน ขณะที่อีกหลายแสนต้องทิ้งบ้านเรือนหนีเอาชีวิตรอด
แอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ออกมาแถลงสรุปผลการเจรจานานหลายชั่วโมงกับนายกรัฐมนตรี เบนจามิน เนทันยาฮู ที่กรุงเทลอาวีฟเมื่อช่วงเช้าวันนี้ (17) พร้อมประกาศยืนยันว่า ไบเดน กำลังจะเดินทางมาเยือนอิสราเอล
“ท่านประธานาธิบดีจะเดินทางมารับฟังด้วยตนเองว่าอิสราเอลต้องการอะไรบ้างในการปกป้องประชาชน และเราจะทำงานร่วมกับสภาคองเกรสเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้น” บลิงเคน บอกกับสื่อมวลชน
ไบเดน มีกำหนดหารือกับ เนทันยาฮู เพื่อย้ำจุดยืนของวอชิงตันในการปกป้องความมั่นคงของอิสราเอล และจะรับฟังเป้าหมายและยุทธศาสตร์ของฝ่ายอิสราเอลในสงครามครั้งนี้
“ท่านประธานาธิบดีจะรับฟังจากอิสราเอลว่า พวกเขาจะปฏิบัติการอย่างไรเพื่อให้พลเรือนสูญเสียน้อยที่สุด และเปิดให้มีการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังพลเรือนในกาซา โดยที่ไม่ให้ผลประโยชน์ตกไปถึงมือพวกฮามาส” บลิงเคน กล่าว
รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ยังบอกด้วยว่าตนและเนทันยาฮู เห็นพ้องให้มีการจัดทำแผนส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังฉนวนกาซา แต่ยังไม่ขอให้รายละเอียด
ภายหลังเยือนอิสราเอลแล้ว ไบเดนจะเดินทางไปยังจอร์แดนเพื่อเข้าเฝ้าฯ สมเด็จพระราชาธิบดีอับดุลเลาะห์ รวมถึงพบกับประธานาธิบดี อับเดล ฟัตตาห์ อัล-ซิซี แห่งอียิปต์ และประธานาธิบดี มะห์มูด อับบาส แห่งองค์การบริหารแห่งชาติปาเลสไตน์ (PA) ตามข้อมูลจาก จอห์น เคอร์บีย์ โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติสหรัฐฯ
ทางการกาซาระบุว่า จนถึงตอนนี้มีชาวปาเลสไตน์เสียชีวิตจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของอิสราเอลไปแล้วมากกว่า 2,800 คนนับจากวันที่ 7 ต.ค. ซึ่ง 1 ใน 4 ของผู้เสียชีวิตเป็นเด็ก และยังมีคนบาดเจ็บรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลอีกกว่า 10,000 คน ขณะที่โรงพยาบาลในกาซาเองก็มีทรัพยากรไม่เพียงพอต่อการดูแลรักษาผู้บาดเจ็บเหล่านี้
เจ้าหน้าที่อิสราเอลเผยว่า นอกจากสังหารชาวอิสราเอลไปนับพันๆ คนแล้ว กลุ่มฮามาสยังได้ลักพาตัวชาวอิสราเอลและคนต่างชาติกลับไปเป็นตัวประกันในกาซาอีกไม่ต่ำกว่า 199 คน
คอลิด เมชาล (Khaled Meshaal) แกนนำกลุ่มฮามาส ออกมาประกาศเมื่อวันจันทร์ (16) ว่า ทางกลุ่ม “มีทุกอย่างที่จำเป็น” ในการปลดปล่อยนักโทษชาวปาเลสไตน์ทุกคนออกจากคุกอิสราเอล ซึ่งเหมือนจะเป็นการส่งสัญญาณว่า พวกเขาตั้งใจใช้ตัวประกันอิสราเอลที่จับไปเมื่อวันที่ 7 ต.ค. เป็นเครื่องมือต่อรองเพื่อขอแลกเปลี่ยนตัวนักโทษกับเทลอาวีฟ
ไม่นานหลังจากที่ เมชาล ออกมาพูดเรื่องตัวประกัน ฝ่ายกองกำลังติดอาวุธของฮามาสก็ได้ออกคำแถลงแยกต่างหากว่า ตัวประกันต่างชาตินั้นถือเป็น “แขก” ที่ฮามาสพร้อมจะปล่อยตัวกลับบ้าน “เมื่อสถานการณ์เอื้ออำนวย”
การเยือนอิสราเอลของ ไบเดน นับเป็นการตัดสินใจที่ค่อนข้างสุ่มเสี่ยง เพราะเท่ากับประกาศชัดว่าสหรัฐฯ หนุนหลังเนทันยาฮู ในขณะที่อเมริกาเองก็ต้องการหลีกเลี่ยงไม่ให้อิหร่านและกลุ่มฮิซบอลเลาะห์ในเลบานอนเข้ามายุ่งเกี่ยวกับสงครามครั้งนี้
ฮอสเซน อามีร์อับดอลลาเฮียน รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ออกมาขู่ผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า ปฏิบัติการของอิสราเอลในฉนวนกาซาจะต้องเผชิญกับผลลัพธ์บางอย่าง พร้อมเตือนว่าอิหร่านอาจ “ลงมือโจมตีก่อน” ในอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า
ที่มา : รอยเตอร์
Cr : ผู้จัดการออนไลน์
