การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่รุนแรง ป่าไม้จึงต้องได้รับการป้องกันจากกิจกรรมที่ผิดกฎหมาย

เมืองซีแอตเทิล สหรัฐอเมริกา
9 ตุลาคม 2023

เอเปคสนับสนุนความร่วมมือจากหลายภาคส่วนเพื่อรักษาพื้นที่ป่าไม้ของภูมิภาค

          ต้นทศวรรษที่ 1990 ประชาชนทั่วไปยังไม่ทราบว่าการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศที่เกิดจากกิจกรรมของมนุษย์ สมาชิกเอเปคได้ให้คำสัญญาว่าจะจัดการกับปัญหานี้แล้ว ผู้นำเอเปคในปี 1993 ระบุว่าพวกเขา “จะปกป้องคุณภาพอากาศ น้ำและพื้นที่สีเขียวของพวกเรา และจัดการทรัพยากรพลังงานและทรัพยากรหมุนเวียนของพวกเรา เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืนที่มั่นคง และมอบอนาคตที่ปลอดภัยมากขึ้นสำหรับผู้คนของเรา”

          ถ้อยแถลงดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าเอเปคตระหนักถึงบทบาทของความยั่งยืนด้านสิ่งแวดล้อมเพื่อการรับประกันความอยู่ดีมีสุขของเศรษฐกิจและสังคมของภูมิภาค ตัวอย่างสำคัญ คือ ความพยายามที่ยาวนานหลายทศวรรษเพื่อเพิ่มพูนพื้นที่ป่าไม้ที่เห็นผลในปี 2020 จากพื้นที่ป่าไม้ที่เพิ่มจำนวนถึง 27.9 ล้านเฮกตาร์ในภูมิภาคเอเปค

          ในปัจจุบัน การพูดคุยเกี่ยวกับความเร่งด่วนของปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศเพียงเล็กน้อย ซึ่งผลกระทบดังกล่าวมีความชัดเจนมากขึ้น เมื่อวันที่ 3-5 กรกฎาคม 2023 โลกต้องเผชิญกับวันที่ร้อนที่สุดที่เคยบันทึกไว้ อุณหภูมิเฉลี่ยของโลกสูงถึง 17.01 องศาเซลเซียส ซึ่งสูงกว่าสถิติเดิมในเดือนสิงหาคม 2016 ที่ 16.92 องศาเซลเซียส ตามข้อมูลจากหน่วยงานตรวจสภาพอากาศหลายแห่ง ทั้งศูนย์เพื่อการพยากรณ์สิ่งแวดล้อมแห่งชาติ (US National Centers for Environmental Prediction) และองค์การบริหารการบินและอวกาศแห่งชาติ (National Aeronautics and Space Administration) ของสหรัฐอเมริการะบุว่าเดือนกรกฎาคม 2023 นั้นร้อนกว่าเดือนอื่น ๆ นับตั้งแต่ปี 1880 ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เริ่มมีการบันทึกข้อมูล

          ภาวะโลกร้อนที่รุนแรงขึ้นนี้เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักของเหตุการณ์สภาพอากาศที่เลวร้าย ซึ่งส่งผลให้เกิดความเสียหายอย่างใหญ่หลวงต่อกลุ่มเศรษฐกิจและชุมชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเศรษฐกิจที่มีความยืดหยุ่นน้อยกว่าและความสามารถในการลงทุนในมาตรการปรับตัว

          เจ้าหน้าที่ของเอเปคและผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอื่น ๆ ประชุมกันที่เมืองซีแอตเทิลในเดือนสิงหาคมท่ามกลางฉากทัศน์ดังกล่าว จุดประสงค์ของการประชุมเป็นไปเพื่อการรวมตัวกันของกลุ่มผู้เชี่ยวชาญว่าด้วยการตัดไม้อย่างผิดกฎหมายและการค้าที่เกี่ยวข้อง (Experts Group on Illegal Logging and Associated Trade: EGILAT) ซึ่งยังคงพัฒนาความมุ่งมั่นของเอเปคที่มีต่อทรัพยากรป่าไม้ของภูมิภาค

          แคทเธอรีน คอนชนิก (Katherine Konschnik) รองผู้ช่วยอัยการสูงสุด แผนกสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ กระทรวงยุติธรรมของสหรัฐอเมริกา กล่าวกับผู้แทนจากประเทศสมาชิกเอเปคว่า “พวกเราไม่มีใครรอดพ้นจากผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เราทุกคนยังคงได้เห็นอุณหภูมิที่ร้อนจัดที่สุดในช่วงเวลาที่บันทึกไว้ การเปลี่ยนจากฤดูไฟป่าไปสู่เขตไฟป่าขนาดใหญ่ซึ่งคุกคามตลอดทั้งปี เหตุการณ์สภาพอากาศสุดขั้วกลายเป็นเรื่องปกติธรรมดาและการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในระบบนิเวศและถิ่นที่อยู่”

          ตามข้อมูลของคอนชนิก จุดเน้นของการประชุม EGILAT มีสองส่วน นั่นคือ การส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์จากป่าที่เก็บเกี่ยวอย่างถูกกฎหมายและการต่อสู้กับการตัดไม้ที่ผิดกฎหมายและการค้าที่เกี่ยวข้อง

เธอกล่าวอีกว่า “เป้าหมายแฝดเหล่านี้ เชื่อมโยงกับความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเราอย่างแยกไม่ออก”

องค์การอาหารและการเกษตรแห่งสหประชาชาติ (UN Food and Agriculture Organization: FAO) ระบุว่าการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลกในแต่ละปีลดลงจาก 11 ล้านเฮกตาร์ต่อปีในปี 2000-2010 เหลือ 7.8 ล้านเฮกตาร์ต่อปีในปี 2010-2018 แต่อัตราการสูญเสียป่าไม้ทั่วโลกยังคงดำเนินต่อไปในอัตราที่น่าตกใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสภาวะร้ายแรงของการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การสูญเสียความหลากหลายทางชีวภาพและความท้าทายทางเศรษฐกิจที่ชุมชนห่างไกลต้องเผชิญ

การตัดไม้ที่ผิดกฎหมายทำลายป่าไม้ ซึ่งทำหน้าที่เป็นแหล่งกักเก็บคาร์บอนและมีบทบาทสำคัญในการบรรเทาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ นอกจากนี้ การตัดไม้ที่ผิดกฎหมายมักเกี่ยวข้องกับแนวทางปฏิบัติด้านป่าไม้ที่ไม่ยั่งยืน ส่งผลให้เกิดความเสื่อมโทรมของภูมิทัศน์และการสูญเสียบริการระบบนิเวศที่มีคุณค่า โดยเฉพาะอย่างยิ่งต่อชุมชนที่ต้องพึ่งพาป่าไม้ที่สมบูรณ์แข็งแรงเพื่อเป็นอาหาร สุขภาพและการดำรงชีวิต การตัดไม้ที่ผิดกฎหมายบ่อนทำลายธุรกิจที่ถูกกฎหมายและปล้นรายได้ของรัฐบาลและชุมชน อีกทั้งยังทำให้หลักนิติธรรมอ่อนแอลงและกระตุ้นให้เกิดวงจรการทุจริตและอาชญากรรมข้ามชาติ

คอนชนิกให้ความเห็นอีกว่า “สมาชิกเอเปคครอบครองพื้นที่ป่าไม้มากกว่าร้อยละ 50 ของโลก ด้วยเหตุนี้ ความมุ่งมั่นของเราในการส่งเสริมการค้าที่ถูกกฎหมายและการรับประกันการใช้ป่าอย่างยั่งยืนของเราจึงเป็นกุญแจสำคัญในความพยายามระดับโลกเพื่อการต่อสู้กับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ”

คอนชนิกตั้งข้อสังเกตว่าสหรัฐอเมริกา เจ้าภาพเอเปคในปี 2023 ใช้ความพยายามอย่างมากในการต่อสู้กับการตัดไม้ที่ผิดกฎหมายและส่งเสริมการค้าผลิตภัณฑ์ไม้ที่ถูกกฎหมาย รัฐบาลสหรัฐฯ ได้กำหนดอัตรากำลังในการสืบสวนและลงทุนทางการเงินจำนวนมากสำหรับการฝึกอบรมเจ้าหน้าที่บังคับใช้กฎหมายของสหรัฐฯ รัฐบาลสหรัฐฯ ยังได้ออกคำสั่งผู้บริหารเพื่อสนับสนุนความพยายามบังคับใช้ระหว่างประเทศในเรื่องการตัดไม้ที่ผิดกฎหมาย พัฒนาการจัดการป่าไม้อย่างยั่งยืนและจัดการกับการตัดไม้ทำลายป่า ข้อตกลงที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้ การฝึกอบรมและความช่วยเหลือทางเทคนิคได้จัดทำขึ้นกับประเทศพันธมิตรหลายแห่งภายในภูมิภาคเอเปค เช่น ปาปัวนิวกินี เปรู และเวียดนาม

สาเหตุหนึ่งที่มีการผลักดันให้จัดตั้ง EGILAT ของเอเปคในปี 2011 คือ การยกระดับการดำเนินการและความตระหนักรู้ถึงความร้ายแรงของการตัดไม้ที่ผิดกฎหมายทั่วทั้งภูมิภาคเอเปค นอกจากนี้ยังเป็นที่ยอมรับว่าการตัดไม้ที่ผิดกฎหมายและการค้าที่เกี่ยวข้องเป็นปัญหาที่ซับซ้อนอย่างไม่น่าเชื่อ หน่วยงานป่าไม้ในเขตเศรษฐกิจเพียงลำพังไม่สามารถแก้ไขได้ ทรัพยากรและความเชี่ยวชาญในการจัดการกับบางสิ่งในวงกว้างอย่างแท้จริงครอบคลุมข้ามพรมแดนและอาณัติของหน่วยงานต่าง ๆ มากมายภายในรัฐบาลของเศรษฐกิจ เช่น ป่าไม้ การค้า ศุลกากร การบังคับใช้ การต่างประเทศและหน่วยงานยุติธรรม

การประชุมของ EGILAT สนับสนุนการแลกเปลี่ยนข้อมูลเกี่ยวกับกฎระเบียบภายในประเทศและการค้าไม้ ซึ่งช่วยให้สมาชิกเรียนรู้และแจ้งการพัฒนาและการดำเนินการด้านกฎระเบียบและการบังคับใช้ของกันและกัน EGILAT ยังสนับสนุนการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างขีดความสามารถในด้านต่าง ๆ ของประเด็นนี้ เช่น ในระหว่างการประชุมเอเปคในเมืองซีแอตเทิล EGILAT ได้จัดการประชุมเชิงปฏิบัติการและการทัศนศึกษาที่เน้นการสำรวจโอกาสที่เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่มีอยู่สามารถนำมาสู่มือผู้กำหนดนโยบาย หน่วยงานกำกับดูแล อุตสาหกรรมและภาคประชาสังคม เพื่อต่อสู้กับการตัดไม้ผิดกฎหมายและสนับสนุนการค้าไม้ที่ถูกกฎหมาย

ตัวอย่างของเทคโนโลยีที่มีการพูดคุยและการจัดแสดง ได้แก่ แมส เปกโตรเมทรี (mass spectrometry) การทำประวัติดีเอ็นเอและเครื่องมือระบุชนิดไม้ เช่น ไซโลตรอน (xylotron) เครื่องมือดังกล่าวช่วยให้ผลิตภัณฑ์ไม้ได้รับการทดสอบเพื่อระบุชนิดพันธุ์และแหล่งกำเนิดสินค้าที่ระบุไว้ ข้อมูลประเภทนี้สามารถช่วยให้ผู้ซื้อมั่นใจได้ว่าพวกเขากำลังซื้อไม้ที่ถูกกฎหมาย รวมทั้งช่วยเหลือรัฐบาลในการดำเนินคดีกับพฤติกรรมทางอาญา นอกจากนี้ยังมีการหารือเกี่ยวกับเครื่องมือในการติดตามและปกป้องข้อมูลภายในห่วงโซ่อุปทาน รวมถึงฐานข้อมูลอ้างอิงทางภูมิศาสตร์ (GPS) และเทคโนโลยีบล็อกเชน

ด้วยกิจกรรมของ EGILAT เจ้าหน้าที่ของรัฐจะพัฒนาความเข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับเครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่สามารถใช้เพื่อต่อสู้กับการตัดไม้ที่ผิดกฎหมาย ซึ่งปกติแล้วจะพัฒนาโดยภาคเอกชน ภาคประชาสังคมและชุมชนวิทยาศาสตร์ เมื่อได้เรียนรู้สิ่งที่มีอยู่แล้ว รัฐบาลก็สามารถสนับสนุนนวัตกรรมเหล่านี้ได้ผ่านทางกฎระเบียบ การนำไปปฏิบัติ การให้ทุนสนับสนุน การอำนวยความสะดวกในการทำงานร่วมกันข้ามพรมแดนและการริเริ่มสร้างขีดความสามารถ

ปัจจุบัน EGILAT กำลังสำรวจวิธีการอำนวยความสะดวกในการร่วมมือและการแบ่งปันข้อมูลระหว่างห้องสมุดไม้ต่าง ๆ ภายในภูมิภาค กิจกรรมเหล่านี้เน้นย้ำถึงประโยชน์ของงานหลายภาคส่วนและผู้เกี่ยวข้องหลายภาคส่วนของเอเปค การเพิ่มพูนความรู้ร่วมกันระหว่างผู้เกี่ยวข้องต่าง ๆ นี้สร้างความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นระหว่างผู้จัดการที่ดิน นักธุรกิจ ผู้กำหนดนโยบาย นักวิทยาศาสตร์ ผู้สืบสวนและอัยการ ซึ่งทุกคนมีส่วนร่วมในการต่อสู้กับการตัดไม้ที่ผิดกฎหมาย

เจนนิเฟอร์ คอนจี (Jennifer Conje) ประธาน EGILAT ปี 2023 จากแผนกป่าไม้ของกระทรวงการเกษตรของสหรัฐอเมริกา กล่าวว่างานนี้ต้องใช้ความพากเพียรและอาจไม่สามารถเห็นผลได้ในทันที

เธอกล่าวเน้นว่า “แต่มันเป็นงานที่สำคัญ สิ่งนี้ทำให้เราต้องเต็มใจที่จะมองแง่มุมต่าง ๆ จากนโยบาย การสร้างขีดความสามารถและการบังคับใช้และตระหนักถึงปัจจัยหลายประการที่ทำให้เกิดการสูญเสียป่าไม้และการตัดไม้ทำลายป่าทั่วโลก รวมถึงภูมิทัศน์ที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลาของกฎระเบียบและความพึงพอใจของตลาด”

คอนจีกล่าวอีกว่า “งานของ EGILAT โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การกำหนดสิ่งที่ถือเป็นการเก็บเกี่ยวและการค้าไม้ที่ถูกกฎหมายในแต่ละเขตเศรษฐกิจของเรา และการบังคับใช้บทบัญญัติเหล่านี้ ทั้งในฐานะผู้ผลิตและผู้บริโภค ถือเป็นรากฐานสำคัญของการอภิปรายเหล่านี้”

รายการอ้างอิง

APEC. (9 October 2023). As Climate Change Gets Worse, Forests Must be Protected from Illegal Activity. Retrieved from https://www.apec.org/press/features/2023/as-climate-change-gets-worse-forests-must-be-protected-from-illegal-activity?fbclid=IwAR2727o73BRoKIsl2KyIo2Ufr53awor2DHj8EG8rG9gkFbFMU_i5oUDWywQ

แปลและเรียบเรียงโดย

นายศิวศิลป์ จุ้ยเจริญ

นักวิจัยประจำสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์