เฟดไม่ขึ้นดอกเบี้ย แต่ยังไม่จบรอบ คาดขึ้นอีกครั้ง 0.25% แล้วคงไว้สูงไปอีกนาน

วันที่ 21 กันยายน 2566 – 01:35 น./ประชาชาติธุรกิจ

วันที่ 20 กันยายน 2023 ตามเวลาสหรัฐ ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินธนาคารกลางสหรัฐ (FOMC) มีมติเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่อัตรา 5.25-5.5% เป็นตามที่นักลงทุน นักเศรษฐศาสตร์ และนักวิเคราะห์คาดการณ์ ซึ่งอัตราดอกเบี้ยปัจจุบันเป็นระดับสูงสุดในรอบ 22 ปีแล้ว 

เฟดคาดการณ์การว่าเศรษฐกิจสหรัฐปีนี้จะแข็งแกร่ง โดยปรับเพิ่มตัวเลขคาดการณ์การเติบโตของจีดีพีเป็น 2.1% จากการคาดการณ์เมื่อเดือนมิถุนายนที่คาดว่าจะโต 1% และคาดว่าอัตราว่างงานจะอยู่ที่ 3.8% ปรับลดลงจากคาดการณ์เมื่อเดือนมิถุนายนที่คาดว่าจะอยู่ที่ 4.1% พร้อมเพิ่มคาดการณ์จีดีพีปี 2024 เป็นโต 1.5% จากคาดการณ์เมื่อเดือนมิถุนายนว่าจะโต 1.1%

แถลงการณ์ของเฟดระบุว่า ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจล่าสุดชี้ให้เห็นว่ากิจกรรมทางเศรษฐกิจมีการขยายตัวต่อเนื่อง การจ้างงานได้ชะลอตัวลงในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา แต่ตลาดแรงงานยังคงแข็งแกร่ง และอัตราการว่างงานยังอยู่ในระดับต่ำ ส่วนอัตราเงินเฟ้อยังคงอยู่ในระดับสูง

ระบบธนาคารของสหรัฐมีความมั่นคงและมีความสามารถในการรับมือและฟื้นตัวจากวิกฤต เงื่อนไขการให้สินเชื่อที่เข้มงวดมากขึ้นสำหรับครัวเรือนและธุรกิจมีแนวโน้มที่จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจ การจ้างงาน และอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งขอบเขตของผลกระทบเหล่านี้ยังไม่แน่นอน คณะกรรมการยังคงให้ความสำคัญกับความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อเป็นอย่างมาก 

คณะกรรมการเฟดพยายามที่จะบรรลุการจ้างงานสูงสุดและอัตราเงินเฟ้อ 2% ในระยะยาว เพื่อที่จะสนับสนุนเป้าหมายเหล่านี้ คณะกรรมการจึงตัดสินใจรักษาช่วงเป้าหมายอัตราดอกเบี้ยของธคารกลางไว้ที่ 5.25% ถึง 5.5% คณะกรรมการจะยังคงประเมินข้อมูลที่เข้ามาเพิ่มเติมและผลกระทบของมันที่มีต่อนโยบายการเงินต่อไป” 

ในการกำหนดขอบเขตการกระชับนโยบายเพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งอาจเหมาะสม เพื่อที่จะทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับลงไปที่ 2% เมื่อเวลาผ่านไป คณะกรรมการจะคำนึงถึงความเข้มงวดสะสมของนโยบายการเงิน ความล่าช้าของนโยบายการเงินที่ส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจและอัตราเงินเฟ้อ และพัฒนาการ หรือสิ่งที่เกิดขึ้นในเศรษฐกิจและตลาดการเงิน 

นอกจากนี้ คณะกรรมการจะยังคงลดการถือครองหลักทรัพย์ (ทำ QT) ตามที่อธิบายไว้ในแผนการที่ประกาศก่อนหน้านี้

“คณะกรรมการมีความมุ่งมั่นอย่างยิ่งที่จะคืนอัตราเงินเฟ้อให้เป็นไปตามเป้าหมาย 2%” ถ้อยแถลงของ FOMC ย้ำเป้าหมาย 

FOMC บอกอีกว่า ในการประเมินจุดยืนและท่าทีที่เหมาะสมของนโยบายการเงิน คณะกรรมการจะติดตามผลกระทบของข้อมูลที่ส่งผลกระทบต่อแนวโน้มเศรษฐกิจ คณะกรรมการจะเตรียมปรับจุดยืนนโยบายการเงินตามความเหมาะสม หากเกิดความเสี่ยงที่อาจขัดขวางการบรรลุเป้าหมายของคณะกรรมการ การประเมินของคณะกรรมการจะพิจารณาจากข้อมูลที่หลากหลาย รวมถึงตัวเลขสภาวะตลาดแรงงาน แรงกดดันด้านเงินเฟ้อ และการคาดการณ์เงินเฟ้อ และสถานการณ์ล่าสุดด้านการเงินและด้านการระหว่างประเทศ

ใน dot plot ซึ่งเป็นการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยที่ผู้กำหนดนโยบายแต่ละคนคิดว่าเหมาะสม แสดงให้เห็นว่าผู้กำหนดนโยบายยังคงคาดการณ์ว่าจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกหนึ่งครั้งในปีนี้ แต่การคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยในปี 2024 และ 2025 เพิ่มขึ้นจากคาดการณ์ก่อนนี้ 0.50% ซึ่งเป็นสัญญาณว่าเฟดคาดว่าอัตราดอกเบี้ยจะคงอยู่สูงไปอีกนาน

การประชุมปี 2023 ที่เหลืออีกสองครั้ง น่าจะมีการถกเถียงกันค่อนข้างมาก ผู้กำหนดนโยบาย 12 ราย จาก 19 รายใน FOMC คาดว่าการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกครั้งในปีนี้จะมีความเหมาะสม ส่วนอีก 7 รายมองว่าควรที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ 

ทั้งนี้ ทันทีหลังทราบมตินโยบายการเงินของสหรัฐ นักลงทุนส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมครั้งหน้า ในวันที่ 1 พฤศจิกายน ตามข้อมูลจาก FedWatch Tool ของ CME นักลงทุนให้น้ำหนัก 70.1% ว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% ในการประชุมครั้งหน้า

เจอโรม พาวเวลล์ (Jerome Powell) ประธานธนาคารกล่าวย้ำในการแถลงข่าวว่า เป้าหมายของเฟดคือการนำเศรษฐกิจสหรัฐลงจอดอย่างนุ่มนวล (soft landing) ซึ่ง “มีความเป็นไปได้” แต่ก็ไม่แน่นอน อย่างไรก็ตาม ต้องดำเนินการอย่างระมัดวัง และย้ำว่าการตัดสินใจครั้งต่อไปจะขึ้นอยู่กับข้อมูลทั้งหมด 

พาวเวลล์บอกว่า การลดอัตราดอกเบี้ยจะเกิดขึ้นในปี 2024 แต่ไม่บอกว่าจะเป็นช่วงเวลาไหน เขาบอกว่า “มีความไม่แน่นอนอย่างมาก” เกี่ยวกับช่วงเวลาการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 

“การคาดการณ์ปี 2024 เป็นเพียงการประมาณการในขณะนี้ ไม่มีอะไรมากไปกว่านั้น”

ทั้งนี้ จาก dot plot คาดว่าดอกเบี้ยจะเริ่มปรับลงในช่วงปลายปี 2024 จากก่อนหน้านี้ที่คาดว่าจะเริ่มปรับลดในช่วงกลางปี 2024 ซึ่งหมายความว่าดอกเบี้ยจะอยู่ในระดับสูง 5% นานกว่าที่คาดการณ์ก่อนหน้านี้

แอนนา หว่อง (Anna Wong) นักวิเคราะห์ของ Bloomberg Economics วิเคราะห์ว่า การคงอัตราดอกเบี้ยในวันนี้ได้รับการคาดการณ์-ความหวังอย่างกว้างขวาง แต่กลับถูกตอบโต้ด้วยการปรับประมาณการอัตราดอกเบี้ยปี 2024 และ 2025 ในอัตราที่สูงขึ้นอย่างมาก ซึ่งแสดงให้เห็นใน dot plot และเจ้าหน้าที่ของเฟดยังไม่คาดว่าจะเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอยในปีนี้อีกด้วย

Cr : ประชาชาติธุรกิจ