การประชุมเอเปคว่าด้วยสตรีและเศรษฐกิจ
เมืองซีแอตเติล สหรัฐอเมริกา
20 สิงหาคม 2023

รัฐมนตรีและผู้แทนระดับสูงจาก 21 เขตเศรษฐกิจของเอเปคให้คำมั่นเพื่อความมุ่งหมายในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีและความเป็นผู้นำทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก

“ช่วงเวลานี้เรียกร้องให้เราเร่งปฏิบัติการ ”เจนนิเฟอร์ ไคลน์ (Jennifer Klein) ผู้อำนวยการสภานโยบายเพศสภาวะของทำเนียบขาว (White House Gender Policy Council) กล่าวในฐานะเป็นประธานการประชุมนโยบายระดับสูงว่าด้วยสตรีและเศรษฐกิจประจำปี 2023 (the 2023 APEC High-Level Policy Dialogue on Women and the Economy) ซึ่งเป็นเวทีสุดท้ายของการประชุมสตรีและเศรษฐกิจ (WEF) ที่กินเวลานานกว่าหนึ่งสัปดาห์

การประชุมสตรีและเศรษฐกิจเริ่มขึ้นเมื่อ 12 ปีก่อน โดยฮิลลารี คลินตัน (Hillary Clinton) ในปี 2011 ซึ่งสหรัฐอเมริกาเป็นเจ้าภาพ เพื่อปลดปล่อยศักยภาพการเติบโตอย่างเต็มที่ของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกด้วยการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของสตรีทั่วเอเปค

ผู้อำนวยการไคลน์อธิบายวัตถุประสงค์หลักของที่ประชุมในปีนี้ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจ รวมถึงการส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ ความพยายามในการรับมือกับสภาพอากาศ การขยายการบูรณาการด้านดิจิทัลและนวัตกรรม การเสริมสร้างเศรษฐกิจใส่ใจ (care economy) และการส่งเสริมความเสมอภาคและความเท่าเทียมกันและห่วงโซ่อุปทาน การบรรลุเป้าหมายเหล่านี้จะต้องมีการทำงานร่วมกัน

ผู้อำนวยการไคลน์กล่าวในการเปิดประชุมเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมาว่า “หลายปีที่ผ่านมา เราได้เห็นครั้งแล้วครั้งเล่าที่สตรีและเด็กผู้หญิงได้รับผลกระทบที่ไม่สมส่วนจากวิกฤต ตั้งแต่การระบาดของโควิด-19 ความไม่มั่นคงทางอาหารที่เพิ่มขึ้น รวมถึงวิกฤตของสภาพอากาศ ความไม่เท่าเทียมเหล่านี้ทำให้เกิดความไม่มั่นคงในท้องถิ่น ภูมิภาค ตลอดจนระดับชาติและระดับโลก”

ผู้อำนวยการไคลน์กล่าวเสริม “เราทราบว่าผลตอบแทนที่ตามมาจากการที่สตรีมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในระบบเศรษฐกิจ การวิจัยที่สำคัญแสดงให้เห็นว่าการปิดช่องว่างระหว่างเพศในภาคแรงงานสามารถเพิ่มผลผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ (GDP) ทั่วโลกระหว่าง 12-28 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา”

เธอยังเสริมอีกว่า “การวิเคราะห์ที่คล้ายกันโดยกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประเทศต่าง ๆ สามารถเพิ่มขนาดของเศรษฐกิจของตนเองได้มากถึงร้อยละ 35 เพียงแค่จำกัดกฎหมายการเลือกปฏิบัติและปรับชั้นของพื้นที่ทางเศรษฐกิจสำหรับผู้หญิง”

ผู้อำนวยการไคลน์เรียกร้องให้ภาคเอกชนร่วมมือกับภาครัฐในการส่งเสริมการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจอย่างเต็มรูปแบบของสตรี ซึ่งรวมถึงการเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจเพื่อส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมที่นำโดยสตรีในห่วงโซ่อุปทานโลก เธอกล่าวอีกว่าการลงทุนในการดูแลเด็กและโครงสร้างพื้นฐาน การดูแลในเรื่องอื่น ๆ สำหรับพนักงาน การจัดการบรรทัดฐานที่เลือกปฏิบัติและการส่งเสริมความเสมอภาคทางเพศควรถูกรวมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรูปแบบธุรกิจองค์กร

ผู้อำนวยการไคลน์อธิบายอีกว่า “เพื่อปลดปล่อยศักยภาพทางเศรษฐกิจของสตรีทั่วภูมิภาคเอเปค เราจำเป็นต้องทำงานเป็นหุ้นส่วนกัน โดยเฉพาะกับภาคเอเกชน ซึ่งมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งต่อการดำเนินการและแน่นอนว่าจะได้รับประโยชน์อย่างมาก”

ผู้อำนวยการไคลน์เน้นย้ำว่าการเป็นพันธมติรกับสมาชิกเอเปค หุ้นส่วนพหุภาคีและภาคประชาสังคมจะมีความสำคัญในการจัดการกับช่องว่างทางเศรษฐกิจในศตวรรษที่ 21 สำหรับผู้หญิงจากผลประโยชน์ของความเสมอภาคทางเพศและความก้าวหน้าทางเศรษฐกิจของสตรี ตลอดจนส่งเสริมความมั่งคั่งและความมั่นคงทางเศรษฐกิจทั่วภูมิภาค

ผู้อำนวยการไคลน์กล่าวส่งท้ายว่า “งานของเราเกิดขึ้นในห่วงเวลาแห่งความขัดแย้งและวิกฤตที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งมีผลกระทบต่อสตรีและเด็กผู้หญิงทั่วโลกอย่างมาก ด้วยจิตวิญญาณของความร่วมมือ ดิฉันขอเรียกร้องให้เราทำงานร่วมกันโดยสุจริตใจเพื่อรับมือกับความท้าทายเหล่านี้ และสร้างสภาพแวดล้อมที่ส่งเสริมการมีส่วนร่วมของสตรีและเด็กผู้หญิงอย่างเต็มที่”

หมายเหตุ

ผู้สนใจสามารถรับฟังการสัมภาษณ์เกี่ยวกับการประชุมของเจนนิเฟอร์ ไคลน์ ผู้อำนวยการสภานโยบายเพศสภาวะของทำเนียบขาวได้ที่ https://www.apec.org/press/videos/2023/director-klein-on-promoting-women-s-economic-integration

รายการอ้างอิง

APEC Women and the Economy Forum. (20 August 2023). Director Klein: Women’s Equal Economic Participation and Leadership is Indispensable. Retrieved from https://www.apec.org/press/news-releases/2023/director-klein-women-s-equal-economic-participation-and-leadership-is-indispensable

แปลและเรียบเรียงโดย

นายศิวศิลป์ จุ้ยเจริญ

นักวิจัยประจำสถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์