ความไม่สม่ำเสมอของความเติบโตทางเศรษฐกิจ: เอเปคเห็นการเติบโตในปี 2023 แต่ลดลงในปี 2024

หน่วยสนับสนุนนโยบายเอเปค
ดีทรอยต์ สหรัฐอเมริกา
24 พฤษภาคม 2023

เอเปคคาดการณ์ว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคจะขยายตัวเล็กน้อยเป็นร้อยละ 3.1 ในปี 2023 หลังจากที่ขยายตัวร้อยละ 2.6 ในปี 2022 แต่ว่าจะชะลอตัวลงเหลือร้อยละ 2.8 ในปี 2024 ตามรายงานวิเคราะห์เศรษฐกิจใหม่ที่เผยแพร่โดยหน่วยสนับสนุนนโยบายเอเปค (APEC Policy Support Unit: PSU)

Carlos Kuriyama ผู้อำนวยการหน่วยสนับสนุนนโยบายเอเปคกล่าวว่า “ค่าครองชีพที่สูงขึ้นขัดขวางความสามารถของเราในการขับเคลื่อนไปสู่การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจที่มั่นคงหลังการระบาดใหญ่”

เขาอธิบายเสริมว่า “เรามองเห็นช่องว่างทางการคลังที่ลดลงและหนี้สินที่เพิ่มขึ้น หลังจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เพื่อรักษาชีวิตและความเป็นอยู่ในช่วงโควิด-19 แม้จะมีความพยายามเหล่านี้ แต่ระดับรายได้ของสมาชิกเอเปค ก็ยังไม่ฟื้นตัวกลับไปสู่ระดับก่อนเกิดโรคระบาดและความเหลื่อมล้ำก็ขยายวงกว้างขึ้น ส่งผลกระทบต่อประชากรที่เปราะบางมากที่สุด”

จากรายงานการ APEC Regional Trends Analysis ระบุว่าหนี้สาธารณะของรัฐบาลทั่วไปแตะระดับสูงสุดที่เคยมีมาในปี 2023 โดยเพิ่มขึ้นเป็นร้อยละ 112 ของจีดีพีสำหรับประเทศที่พัฒนาแล้ว และสูงถึงร้อยละ 65 ของผลผลิตมวลรวมสำหรับภูมิภาคเอเปค

รายงานแสดงให้เห็นว่าการหยุดชะงักของอุปสงค์และอุปทานจากผลกระทบโดยรวมของปัญหาทางภูมิรัฐศาสตร์ได้สร้างแรงกดดันต่อราคา ซึ่งอัตราเงินเฟ้อในเอเปคสูงถึงร้อยละ 5.9 ในปี 2022 เพิ่มขึ้นจากร้อยละ 2.9 ในปี 2021 และคาดว่าจะอยู่ในระดับปานกลางถึงร้อยละ 4.4 ในปีนี้

Rhea C. Hernando นักวิจัยอาวุโสของหน่วยสนับสนุนนโยบายเอเปคให้ความเห็นว่า “อัตราเงินเฟ้อที่เข้มแข็งทำให้ความไม่เท่าเทียมกันของรายได้แย่ลง และในขณะที่สมาชิกเอเปคเพิ่มอัตราดอกเบี้ยเพื่อลดอัตราเงินเฟ้อ การประกาศโดยประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเพื่อลดการผลิตน้ำมันทำให้เกิดความกังวลเรื่องเงินเฟ้อ”

ศักยภาพของการค้าก็ลดลงเช่นกันในปี 2022 เนื่องจากอุปสงค์ทั่วโลกที่อ่อนแอ ปริมาณการส่งออกและนำเข้าสินค้าของเอเปคลดลงเหลือร้อยละ 1.1 และ 1.2 ตามลำดับ เมื่อเทียบกับปี 2021 ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 10.6 และ 11 ตามลำดับ

Hernando กล่าวอีกว่า “ขณะที่ช่วงเวลาของการฟื้นตัวที่เกี่ยวข้องกับการแพร่ระบาดเริ่มจางหายไปสำหรับการค้า จึงมีแนวโน้มว่าปริมาณการค้าสินค้าจะมีอัตราการเติบโตที่ต่ำเช่นกันในปีนี้”

เธอแสดงความกังวลอีกว่า “ประเด็นที่เรากังวล คือ การคงการจำกัดทางการค้าที่มีอยู่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการจำกัดการส่งออกและการแบน ยิ่งไปกว่านั้น เรากำลังเห็นแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นของจำนวนมาตรการเยียวยาทางการค้าที่บังคับใช้อยู่ เช่น มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาดและอากรตอบโต้การตอบโต้”

ในแง่บวก การผ่อนปรนข้อจำกัดด้านการเดินทางข้ามพรมแดนได้กระตุ้นการค้าบริการเชิงพาณิชย์ โดยบริการด้านการเดินทางเป็นตัวผลักดันกำไรมากที่สุด ตามมาด้วยบริการขนส่งและบริการที่เกี่ยวข้องกับสินค้า การส่งออกและนำเข้าการค้าบริการเชิงพาณิชย์ทั้งหมดในเอเปคเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 และร้อยละ 17.4 ตามลำดับ ในช่วงเดือนมกราคมถึงกันยายนปี 2022

Kuriyama กล่าวว่า “หนึ่งในหลาย ๆ เหตุผลที่เอเปคก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1989 ก็เพื่อยกระดับผู้คนให้พ้นจากความยากจนและเพิ่มมาตรฐานการครองชีพ ในเวลานี้เราเผชิญกับความจริงที่ว่ามาตรฐานการครองชีพตกต่ำลงเนื่องจากโรคระบาด ทำให้เกิดการสูญเสียงานและรายได้เป็นจำนวนมาก”

เขากล่าวต่อไปอีกว่า “ภารกิจหลักของเราควรมุ่งเน้นไปที่การทำให้แน่ใจว่า เราจะไม่ถอยหลังให้กับความก้าวหน้าของเราและอนาคตของโลกาภิวัตน์คำนึงถึงความเสมอภาคและความเท่าเทียมกัน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”

Kuriyama ได้สรุปว่า “เราจำเป็นต้องเสริมสร้างความร่วมมือในระดับภูมิภาคเพื่อสนับสนุนการเจรจาที่ครอบคลุมและความพยายามร่วมกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ในการเติบโตของเรา การทำให้แน่ใจว่าการค้ายังคงเปิดกว้างเป็นสิ่งหนึ่ง แต่การลดช่องว่างด้านการศึกษา ทักษะ และดิจิทัล และเปิดโอกาสมากขึ้นสำหรับผู้คนของเราเป็นส่วนสำคัญของการฟื้นฟู”

รายงาน APEC Regional Trends Analysis ฉบับล่าสุดเปิดตัวที่เมืองดีทรอยต์ก่อนการประชุมรัฐมนตรีพาณิชย์เอเปค ข้อค้นพบและการวิเคราะห์ในรายงานจะเป็นแนวทางในการอภิปรายของรัฐมนตรีและสนับสนุนการตัดสินใจอย่างรอบรู้เพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ของเอเปคเกี่ยวกับประชาคมเอเชียแปซิฟิกที่เปิดกว้าง มีพลวัต ฟื้นคืนสภาพและสงบสุข

ที่มา

APEC. (24 May 2023). APEC Sees More Uneven Growth in 2023, Moderation in 2024. Retrieved from https://www.apec.org/press/news-releases/2023/apec-sees-more-uneven-growth-in-2023-moderation-in-2024

แปลและเรียบเรียงโดย

นายศิวศิลป์ จุ้ยเจริญ, นักวิจัย

สถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์