G20: ผู้นำอินโดนีเซียเผยจะไม่ยอมให้โลกเข้าสู่สงครามเย็น

15 พ.ย. 2565 13:19 น./

ประธานาธิบดีโจโก วิโดโด ของอินโดนีเซีย กล่าวในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มจี 20 ที่อินโดนีเซียเป็นเจ้าภาพว่า เขาขอให้ประเทศสมาชิกกลุ่มจี 20 ช่วยกันยุติสงคราม และต้องไม่ยอมให้เกิดสงครามเย็นขึ้นบนโลกใบนี้อีก

ประธานาธิบดีวิโดโดกล่าวก่อนพิธีเปิดการประชุมกับบรรดาผู้นำที่เข้าร่วมประชุมสุดยอดกลุ่มจี 20 ซึ่งจัดขึ้นที่เกาะบาหลี ระหว่างวันที่ 15-16 พ.ย. ว่า เขาขอให้ประเทศสมาชิกกลุ่มจี 20 ช่วยกันยุติสงคราม ถ้าสงครามยังไม่จบสิ้น ก็เป็นเรื่องยากที่ทั่วโลกจะก้าวไปข้างหน้า ผู้นำอินโดนีเซียยังเรียกร้องให้ประเทศสมาชิกกลุ่มจี 20 ไม่แบ่งแยกโลกออกเป็นส่วนๆ และต้องไม่ยอมให้เกิดสงครามเย็นขึ้นบนโลกใบนี้อีกครั้ง โดยไม่ได้กล่าวถึงรัสเซีย

ผู้นำอินโดนีเซียกล่าวว่า “เราไม่มีทางเลือกอื่น ความร่วมมือเป็นสิ่งจำเป็นในการกอบกู้โลก” ทั้งยังระบุว่า ประเทศสมาชิกกลุ่มจี 20 ซึ่งเป็นประเทศขนาดเศรษฐกิจใหญ่ของโลก ต้องประสบความสำเร็จในการต่อสู้กับวิกฤติครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นในตอนนี้

ในขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี ของยูเครน กล่าวในงานเดียวกันผ่านระบบออนไลน์ว่า ขณะนี้ได้เวลาแล้วที่ทุกคนต้องช่วยกันยุติสงครามอันโหดร้ายรุนแรงของรัสเซีย และต้องขยายระยะเวลาในข้อตกลงส่งออกธัญพืชของยูเครน พร้อมทั้งเสนอให้มีการแลกเปลี่ยนตัวนักโทษทั้งหมดระหว่างยูเครนกับรัสเซียอีกด้วย ทั้งนี้ ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย ไม่ได้เดินทางไปเข้าร่วมการประชุมในครั้งนี้ แต่มอบหมายให้นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงต่างประเทศของรัสเซีย เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวแทน

สัญญาณในทางบวกที่เกิดขึ้นก่อนการประชุมในวันนี้คือการพบหารือแบบตัวต่อตัวครั้งแรกเป็นเวลา 3 ชั่วโมงของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน โดยที่ผู้นำทั้งสองได้ให้คำมั่นจะติดต่อสื่อสารพูดคุยกันให้มากขึ้นแม้ว่าจะมีความเห็นที่แตกต่างกันในหลายประเด็นทั้งเรื่องไต้หวัน โดยนายแอนโทนี บลิงเคน รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ จะเดินทางไปยังกรุงปักกิ่งเพื่อติดตามความคืบหน้าหลังการเจรจาของผู้นำทั้งสอง

การประชุมครั้งนี้ยังเกิดขึ้นท่ามกลางวิกฤตการณ์อาหาร พลังงาน และเศรษฐกิจโลก ซึ่งส่วนใหญ่ได้รับผลกระทบจากสงครามในยูเครนซึ่งปะทุขึ้นเมื่อต้นปีนี้

นายโจโควีกล่าวว่า “ผลกระทบของวิกฤตการณ์ต่างๆ เหล่านี้ที่มีต่ออาหาร พลังงาน และแรงกดดันทางการเงิน กำลังเกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งประเทศกำลังพัฒนา” 

“สำหรับผม จี20 จะต้องประสบความสำเร็จและไม่สามารถล้มเหลวได้ อินโดนีเซียจะพยายามอย่างดีที่สุดเพื่อลดช่องว่าง แต่ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อมีความมุ่งมั่นเท่านั้น” พร้อมกล่าวเสริมว่าจำเป็นต้องร่วมมือกันกอบกู้โลก

ทั้งนี้ กลุ่มประเทศจี 20 ที่รวมถึงประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่ เช่น บราซิล อินเดีย ซาอุดีอาระเบีย และเยอรมนี มีผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ หรือ จีดีพี รวมกันมากกว่าร้อยละ 80 ของจีดีพีทั่วโลก และมีมูลค่าการค้าระหว่างประเทศคิดเป็นร้อยละ 75 รวมถึงจำนวนประชากรคิดเป็นร้อยละ 60 ของประชากรทั่วโลก.

ที่มา CNA