เศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปคเติบโตเฉลี่ยร้อยละ 5.8 ในปี 2021

10 กุมภาพันธ์ 2022 หน่วยสนับสนุนนโยบายของเอเปค สิงคโปร์

การเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปคในปี 2564 ถูกคาดว่าจะลดลง โดยส่วนหนึ่งได้รับผลกระทบจากการกลายพันธุ์ของโควิด-19 รวมถึงอัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นจากผลกระทบจากอุปทานที่ตกต่ำและอุปสงค์สะสมที่แข็งแกร่ง

ตามรายงานที่ปรับปรุงใหม่โดยหน่วยสนับสนุนนโยบายเอเปคแสดงให้เห็นว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ขยายตัวร้อยละ 5.8 ในปี 2021 ต่ำกว่าที่คาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ร้อยละ 6

ดร.เดนิส ฮิว (Denis Hew) ผู้อำนวยการหน่วยสนับสนุนนโยบายของเอเปคกล่าวว่า “เรากำลังเผชิญกับกระแสลมหลายครั้งที่ขัดขวางการผลักดันให้ฟื้นตัว ยิ่งไปกว่านั้น การเติบโตของเอเปคจะยังคงไม่เท่าเทียมกัน สาเหตุหลักมาจากความไม่เท่าเทียมกันในการจัดการการระบาดใหญ่และการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม การเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับหนึ่งของจีนก็คาดว่าจะมีผลกระทบต่อประสิทธิภาพทางเศรษฐกิจของภูมิภาคด้วยเช่นกัน”

รายงานระบุว่าการเติบโตทางเศรษฐกิจของภูมิภาคเอเปคจะอยู่ในระดับปานกลางในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า โดยจะขยายตัวเป็นร้อยละ 4.2 ในปี 2022 และร้อยละ 3.8 ในปี 2023

อัตราเงินเฟ้อที่สูงขึ้นทำให้เกิดความท้าทายเพิ่ม เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อได้ผลักดันให้บางประเทศต้องปรับนโยบายการเงินให้เข้มงวดขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจที่ซบเซา อัตราเงินเฟ้อของเอเปคเพิ่มขึ้นสองเท่าเป็นค่าเฉลี่ยร้อยละ 3 ในปี 2021 เทียบกับร้อยละ 1.5 ในปี 2020 เนื่องจากราคาพลังงานและอาหารที่สูงขึ้น

Rhea C. Hernando นักวิจัยจากหน่วยสนับสนุนนโยบายเอเปค ซึ่งเป็นผู้เขียนรายงานให้ความเห็นว่า “เราคาดว่าอัตราเงินเฟ้อจะอยู่ในระดับปานกลางร้อยละ 2.5 ในปี 2021 และจะลดลงเป็นร้อยละ 2.3 ภายในปี 2022 ทางการจำเป็นต้องยึดการคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อต่อไปด้วยเจตนารมณ์นโยบายการเงินที่ชัดเจน ควบคู่ไปกับการรักษาเสถียรภาพของโลกและสภาวะอุปทาน ซึ่งจะช่วยลดอัตราเงินเฟ้อได้”

รายงานดังกล่าวชี้ให้เห็นว่าหนี้สาธารณะทั่วภูมิภาคเพิ่มขึ้นเป็นประมาณร้อยละ 65 ของจีดีพีในปี 2020 ได้อย่างไร โดยเทียบกับค่าเฉลี่ยก่อนเกิดโรคระบาดในช่วง 10 ปีที่ร้อยละ 49 ของจีดีพี การเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญนี้เกิดจากการตอบสนองทางการคลังครั้งใหญ่เพื่อรองรับวิกฤตด้านสุขภาพและวิกฤตเศรษฐกิจที่เกิดจากโควิด-19

Rhea C. Hernando กล่าวเสริมอีกว่า “รัฐบาลกำลังเผชิญกับทางเลือกที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในการลดมาตรการกระตุ้นทางการคลัง และเปลี่ยนไปใช้แนวทางที่ตรงเป้าหมายและปรับเปลี่ยนมากขึ้น เพื่อสนับสนุนครัวเรือนที่อ่อนแอและธุรกิจที่มีศักยภาพได้ต่อไป อย่างไรก็ตาม การจำกัดพื้นที่ทางการคลังและนโยบายการเงินที่เข้มงวดอาจทำให้การบริโภคและกิจกรรมทางเศรษฐกิจโดยรวมชะลอตัวลงได้”

เมื่อมองไปข้างหน้า รายงานแนะนำว่าสมาชิกเศรษฐกิจเอเปคยังคงให้ความสำคัญกับสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคเพื่อให้สามารถฟื้นตัว เปิดใหม่ และสร้างใหม่ได้

ดร.ฮิวกล่าวย้ำอีกว่า “สัญญาณยังคงเหมือนเดิมไม่มากก็น้อย การปกป้องการไหลเวียนของเวชภัณฑ์อย่างเสรีและรวดเร็วข้ามพรมแดน เพื่อขยายการฉีดวัคซีนที่ครอบคลุม ขณะเดียวกันเราจำเป็นต้องจัดการกับความสงสัยต่อวัคซีน โดยเน้นที่การรณรงค์ข้อมูล เน้นการป้องกันวัคซีนและแก้ไขข้อมูลที่เข้าใจผิด นอกจากนี้สมาชิกเศรษฐกิจเอเปคจำเป็นต้องประกันความพร้อมของบุคลากรทางการแพทย์และจำเป็น เนื่องจากเป็นกุญแจสำคัญในการฟื้นตัว”

ประเทศไทย ในฐานะเจ้าภาพของการประชุมเอเปค 2022 จะเป็นผู้นำความพยายามของภูมิภาคในการกำหนดอนาคตยุคหลังโควิด-19 สำหรับภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกที่มีความยืดหยุ่น ครอบคลุม สมดุลและยั่งยืน ภายใต้ธีม “เปิด เชื่อมต่อ สมดุล (Open. Connect. Balance.)” ทั้งนี้ประเทศไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมด้านเทคนิครอบแรกในเดือนกุมภาพันธ์นี้

ที่มา

APEC. (10 February 2022). APEC Region’s GDP Growth Moderates to 5.8% in 2021: Report. Retrieved from https://www.apec.org/press/news-releases/2022/gdp-growth-moderated-in-2021

แปลและเรียบเรียงโดย

นายศิวศิลป์ จุ้ยเจริญ, นักวิจัย

สถาบันอาณาบริเวณศึกษา มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์