23 ส.ค. 2564 • 09:25 การเงินธนาคาร

สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ได้เผยแพร่ผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน ในกรณี การใช้จ่ายของคนไทยในยุคโควิด-19 กลุ่มตัวอย่าง 1,274 คน ระหว่างวันที่ 16-19 สิงหาคม 2564
โดยพบประชาชนใช้จ่ายเพิ่มขึ้นถึง 40.22% อีกส่วนราว 33.60% ใช้จ่ายลดลง และอีก 26.18% ใช้จ่ายเท่าเดิม เมื่อเปรียบเทียบกับก่อนมีโควิด-19
ซึ่งปัจจุบันราว 83.57% นำเงินจากการทำงานทั้งงานหลักและงานเสริมมาใช้จ่าย ขณะเดียกันกว่า 46.78% นำเงินออมที่มีอยู่ออกมาใช้จ่าย ซึ่งในส่วนนี้ที่นำเงินเก็บออกมาใช้จ่ายนั้น เป็นการใช้ไปบางส่วน 42.63% อีกราว 15.15% ใช้เงินเก็บไปแล้วกว่าครั้ง และ 19.36% ใช้ไปเกือบหมดแล้ว นอกจากนี้ประชาชน 44.34% ยังมีเงินใช้จ่ายมาจากมาตรการช่วยเหลือจากภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง หรือเงินเยียวยาอื่นๆ
ซึ่งรูปแบบการใช้จ่ายในช่วงโควิด-19 คือ 80.44% ลดการซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย รวมถึงการวางแผนการใช้จ่ายอย่างรัดกุม และราว 57.49% ซื้อสินค้าทีละจำนวนมาก กักตุนสินค้าจำเป็น และราว 56.47% ซื้อสินค้าที่ราคาประหยัดกว่า โดยซื้อช่วงจัดโปรโมชั่น โดยอยากให้รัฐบาลช่วย 1.เรื่องลดค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าอินเทอร์เน็ต ค่าน้ำมัน 2.ลดภารค่าครองชีพ ควบคุมราคาสินค้า และ 3.มีมาตรการเยียวยาประชาชนแบบทั่วถุงทุกคน

ทั้งนี้จากสภาพการใช้จ่ายในยุคโควิด-19 ประชาชนถึง 37.37% คาดว่าจะประคองตัวเองต่อไปได้อีกไม่เกินระมาณ 3 เดือน รองลงมา 30.32% คาดว่าจะประคองอยู่ได้อีก 3-6 เดือน
Cr. การเงินธนาคาร
