ส.ธนาคารไทย ศก.ปีนี้โต1.5% แนะรัฐเร่งฉีดวัคซีน ฟื้นความเชื่อมั่น

31 พ.ค. 64 13:42 น. สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

  สมาคมธนาคารไทย ยอมรับการแพร่ระบาดโควิด-19 ระลอก 3 กระทบเศรษฐกิจรุนแรง ฉุดเศรษฐกิจไตรมาส 3/64 ชะลอ มีลุ้นปีนี้เติบโต 1.5% หลัง แนะภาครัฐต้องกระจายวัคซีนให้ทั่วถึงภายในเดือนก.ค. หวังปลุกความเชื่อมั่นประชาชน ฟื้นกำลังซื้อ

  นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTB และ ประธานสมาคมธนาคารไทย เปิดเผยว่า นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ภาคการเงิน โดยสมาคมธนาคารไทย และ ธนาคารสมาชิก ได้ยืนหยัดเป็นอีกหนึ่งกำลังสำคัญในการช่วยเหลือบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจ และ ลดภาระทางการเงินให้กับลูกค้าทุกกลุ่ม โดยเฉพาะลูกค้ารายย่อย และ SMEs ที่เป็นรากฐานสำคัญของเศรษฐกิจไทย

  โดยสมาคมได้ร่วมกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) และรัฐบาล ออกมาตรการช่วยเหลือลูกค้าอย่างเร่งด่วน ตั้งแต่การระบาดระลอกแรก ซึ่งเป็นมาตรการช่วยเหลือแบบเหมารวมเพราะต้องการความรวดเร็ว และ หลังจากนั้น ก็ได้มีการการปรับมาตรการเป็นระยะ โดยมุ่งเน้นการช่วยเหลือแบบเข้าใจกลุ่มเป้าหมายเพื่อให้การช่วยเหลือลูกค้าได้อย่างตรงจุด และ ให้สามารถใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ในระบบให้ได้ประโยชน์สูงสุด

  อย่างไรก็ตาม การระบาดของโควิด-19 ระลอกที่ 3 ใหม่ในครั้งนี้ ได้สร้างความรุนแรง และ ขยายวงกว้างในเวลาอันรวดเร็ว ส่งผลกระทบต่อวิถีชีวิตและเศรษฐกิจของประเทศมากกว่าทุกครั้งที่ผ่านมา โดยคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบัน (กกร.) ได้ประเมินว่า การระบาดระลอกใหม่นี้ จะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจในประเทศในช่วงไตรมาสที่ 2 และ ไตรมาสที่ 3 ทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวได้ช้ากว่าที่คาดการณ์

  ดัชนีชี้วัดในช่วงเดือนพ.ค.นี้ อาทิ ดัชนีของ Google ที่วัดกิจกรรมการจับจ่ายใช้สอยตามห้างร้านและ พักผ่อนหย่อนใจของครัวเรือน หรือ Retail & Recreation นั้นลดลงถึงกว่า 30% เมื่อเทียบกับช่วงเดือนมี.ค. เป็นต้น

  ในเดือนพ.ค.นี้ทาง กกร. จึงได้ปรับลดการประมาณการจีดีพีปีนี้เหลือเพียงขยายตัวในกรอบ 0.5-2.0% ซึ่งตัวเลขนี้ ได้รวมผลลัพธ์จากมาตราการของรัฐบาลที่ได้มีการประกาศออกมาแล้วด้วย อย่างไรก็ตาม ปีนี้มีโอกาสที่จะเห็นจีดีพีเติบโตได้ 1.5% ถ้าภาครัฐกระตายวัคซีนได้อย่างทั่วถึงในเดือนก.ค.นี้ แต่ถ้าลากยาวออกไปถึงเดือนส.ค. ผลกระทบก็จะเกิดเป็นระลอก ๆ

  “ตอนนี้ระบบธนาคารเปิดทุกช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางตรงแต่ละธนาคาร หรือ ธนาคารอื่นที่ประขาขน หรือ ลูกค้าใช้บริการอยู่ รวมไปถึงทางธปท. และ กระทรวงการคลัง ก็ติดตามผลเป็นระยะ ๆ ตอนนี้สภาพล่องในระบบยังมี ภาคธนาคารอยากให้กลับไปอยู่ในมือของผู้ประกอบการ เพื่อให้เกิดการจ้างงาน และ ก่อให้เกิดการต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ บอบช้ำทางเศรษฐกิจให้น้อยที่สุด ก้าวผ่านช่วงเปาะบางในช่วง 3-4 เดือนข้างหน้านี้ไปให้ได้ ถ้าทำได้ ก็จะฟื้นได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะการฉีดวัควีนให้ทั่วถึงภายในเดือนก.ค. ก็เชื่อว่า การเติบโตของเศรษฐกิจจะเป็นแบบก้าวกระโดด ถ้าท่านบอบช้ำน้อย โอกาสที่เป็นความชันการฟื้นตัวก็จะสูง แต่ถ้าบอบช้ำมาก การฟื้นตัวก็จะเป็นไปในลักษณะต้องใช้พลังเยอะมาก”นายผยง กล่าว

รายงาน    กรณัช พลอยสวาท 
เรียบเรียง  จารุวรรณ เอี่ยมยิ่งพานิช 
อนุมัติ     พิมพ์รภัส ศิริไพรวัน 

Cr. efinancethai