ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมาติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

พฤหัสบดีที่ 16 กรกฎาคม 2563 เวลา 07.35 น. เดลินิวส์

นายเควิน สติตต์ ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมา เป็นผู้ว่าการรัฐคนแรกของสหรัฐซึ่งล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 ก.ค. ว่านายเควิน สติตต์ ผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมา ตั้งอยู่บริเวณภาคกลางตอนล่างของสหรัฐ ประกาศเมื่อวันพุธ ว่าเขามีผลตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เป็นบวก อาการตอนนี้ “ยังเบาบาง” และเขากักตัวอยู่ที่บ้านพร้อมทั้งปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด

ด้านนพ.แลนซ์ ฟราย ผู้อำนวยการสำนักงานสาธารณสุขของรัฐโอคลาโฮมา กล่าวว่าเจ้าหน้าที่กำลังทำการสอบสวนโรคทางระบาดวิทยา เพื่อค้นหาผู้สัมผัสใกล้ชิดและกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้ นพ.ฟรายยืนยันว่ายังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าผุ้ว่าการรัฐโอคลาโฮมาได้รับเชื้อจากที่ใด แต่สติตต์เข้าร่วมงานปราศรัยหาเสียงของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เมืองทัลซา ซึ่งเป็นเมืองใหญ่อันดับ 2 ของรัฐโอคลาโฮมา เมื่อวันที่ 20 มิ.ย. ที่ผ่านมา และหลังจากนั้นมีรายงานว่าผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว “จำนวนหนึ่ง” ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

อย่างไรก็ตาม “ในทางทฤษฎี” นพ.ฟรายกล่าวว่าเหตุการณ์นั้นล่วงเลยมานานเกือบ 1 เดือนแล้ว ตอนนี้สำนักงานสาธารณสุขจึงขอความร่วมมือให้บุคคลใดก็ตามซึ่งใกล้ชิดกับสติตต์ในระยะต่ำกว่า 2 เมตร และใช้เวลาร่วมกันนานเกิน 15 นาที ภายในรอบ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา เข้ารับการตรวจคัดกรอง โดยในเบื้องต้นมีการแจ้งให้นายแมตต์ พินเนลล์ รองผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมา วัย 40 ปี ไปพบแพทย์แล้ว

  ขณะที่มีรายงานด้วยว่า สติตต์พบกับนายอีลอน มัสก์ ผู้บริหารสูงสุดของบริษัทผลิตรถยนต์ไฟฟ้าเทสลา ซึ่งกำลังพิจารณาก่อสร้างโรงงานแห่งใหม่ที่เมืองทัลซา เมื่อต้นเดือนนี้ด้วย ส่วนร้านอาหารเวียดนาม “ไค” ในเมืองทัลซา ประกาศปิด 1 สัปดาห์เพื่อทำความสะอาดครั้งใหญ่และให้พนักงานไปเข้ารับการตรวจ เนื่องจากผู้ว่าการรัฐโอคลาโฮมามาใช้บริการเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว

  อนึ่ง สติตต์ วัย 48 ปี ถือเป็นผู้ว่าการรัฐและนักการเมืองระดับสูงคนแรกของอเมริกา ที่ล้มป่วยด้วยโรคโควิด-19 ซึ่งในประเทศมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 140,000 คน จากจำนวนผู้ป่วยสะสมประมาณ 3.6 ล้านคน ส่วนสถิติของรัฐโอคลาโฮมาอยู่ในอันดับที่ 32 ของสหรัฐ มีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 22,813 คน รักษาหายแล้ว 5,015 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 432 คน.

เครดิตภาพ : AP

CR:เดลินิวส์