วันที่ 12 มิถุนายน 2563 – 08:28 น. มติชน

เจ้าหน้าที่ของสหภาพยุโรปและผู้เชี่ยวชาญออกมาระบุว่า ยุโรปอาจจะเผชิญกับการเพิ่มขึ้นของผู้ติดโควิด-19 ในช่วงไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า หลังจากมีผู้ออกมาร่วมประท้วงเพื่อเรียกร้องความยุติธรรมให้กับการเสียชีวิตของนายจอร์จ ฟลอยด์ ชายผิวสีที่ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาวใช้หัวเข่ากดลงไปที่คอจนขาดอากาศหายใจตาย
ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีผู้คนออกมาร่วมประท้วงในเมืองใหญ่ๆ ทั่วยุโรปหลาย 10,000 คนเพื่อแสดงพลังต่อต้านการเหยียดผิว แม้จะมีรัฐบาลบางประเทศออกมาเตือนถึงความหวั่นวิตกว่า การชุมนุมดังกล่าวจะทำให้เกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาก็ตาม
นายโจเซฟ เคเซซิโอกลู ประธานสมาคมแพทย์ผู้ป่วยฉุกเฉินของยุโรป กล่าวว่า แม้จะมีคำแนะนำให้ทุกคนเว้นระยะห่างจากบุคคลอื่นราว 1.5 เมตร แต่ทุกคนกลับยืนเคียงข้างกันและกอดกัน ซึ่งไม่ทำให้เขารู้สึกดีกับมันเลย
เมื่อถูกถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีการเพิ่มขึ้นของการติดเชื้อรายใหม่ในราวสองสัปดาห์ข้างหน้า เคเซซิโอกลูกล่าวว่า “แน่นอน ผมได้แต่หวังว่าผมจะคาดผิด”
นายแมทท์ แฮนค็อก รัฐมนตรีสาธารณสุขอังกฤษกล่าวว่า ผู้คนไม่ควรจะเข้าร่วมการชุมนุมขนาดใหญ่ที่มีคนมากกว่า 6 คนซึ่งรวมถึงการประท้วงใดๆ แม้เขาจะเข้าใจว่าผู้คนต้องการแสดงจุดยืนเกี่ยวกับสิ่งที่เขาห่วงกังวล แต่ไวรัสชนิดนี้แพร่กระจายได้ดีจากการสัมผัสกับผู้คนโดยไม่สนใจว่าเหตุผลของการรวมตัวกันของคุณคืออะไร
ทั้งนี้ชาติในยุโรปส่วนใหญ่ได้ผ่านจุดที่มีการแพร่กระจายสูงสุดไปแล้ว และกำลังค่อยๆ เริ่มกลับมาเปิดเมือง เปิดธุรกิจ และเปิดพรมแดนอีกครั้ง หลังตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่ค่อยค่อยลดลงในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
ก่อนหน้าการประท้วงครั้งใหญ่ในยุโรปในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา นักวิทยาศาสตร์คาดการณ์ว่าการระบาดระลอกสองน่าจะเกิดขึ้นหลังจากช่วงฤดูร้อนปีนี้ แต่การรวมตัวกันครั้งใหญ่ของผู้คนอาจส่งผลกระทบกับทิศทางที่เป็นบวกของเรื่องดังกล่าว
ด้านเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุขของคณะกรรมาธิการสหภาพยุโรประบุว่า สำหรับโรคที่ติดต่อผ่านทางเดินหายใจแล้ว สถานที่ที่มีการรวมตัวของผู้คนจำนวนมากจะเป็นเส้นทางหลักในการแพร่ระบาด แม้ตัวเลขผู้ป่วยอาจอยู่ในระดับต่ำกว่าช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่ความรุนแรงของการระบาดระลอก 2 จะขึ้นกับประสิทธิภาพในการรักษาระยะห่างทางสังคม รวมถึงปัจจัยอื่นๆ ซึ่งอาจยังไม่เป็นที่รับรู้กันขณะนี้
CR: มติชน
