พฤหัสบดีที่ 11 มิถุนายน 2563 เวลา 08.15 น. เดลินิวส์
อินโดนีเซียพบผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เกิน 1,000 คนเป็นวันที่สองติดต่อกัน ด้านผู้เชี่ยวชาญระบาดวิทยาเตือนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไป ในขณะที่การตรวจคัดกรองแทบไม่ทั่วถึง เพิ่มความเสี่ยงของการแพร่ระบาดครั้งใหม่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 11 มิ.ย. ว่ากระทรวงสาธารณสุขของอินโดนีเซียออกรายงานเมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศ ภายในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดจนถึงวันพุธที่ผ่านมา ว่าผู้ป่วยสะสมมีจำนวนอย่างน้อย 34,316 คน โดยมีการยืนยันผู้ป่วยใหม่ 1,241 คน ถือเป็นวันที่สองติดต่อกันแล้ว ที่อินโดนีเซียพบผู้ป่วยจากโรคดังกล่าวมากกว่า 1,000 คน และสถิติสะสมตอนนี้เป็นอันดับ 2 ของภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ นองจากอินโดนีเซีย
ด้านผู้เสียชีวิตสะสมมีจำนวนอย่างน้อย 1,959 คน เพิ่มขึ้น 36 คน ส่วนผู้ที่ได้รับการรักษาหายแล้วเพิ่มเป็นอย่างน้อย 12,129 คน โดยยังคงเหลือผู้ป่วยอยู่ในระบบอีกอย่างน้อย 20,228 คน ขณะที่นพ. อัคห์มัด ยูเรียนโต ผู้อำนวยการศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติของอินโดนีเซีย กล่าวว่าการพบผู้ติดเชื้อรายวันเพิ่มขึ้นบ่งชี้ประสิทธิภาพของมาตรการตรวจคัดกรองเชิงรุกที่มีความเข้มข้นมากขึ้น
อย่างไรก็ตาม แพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านระบาดวิทยาหลายคนในอินโดนีเซียวิจารณ์ไปในทางเดียวกัน อาทิ นพ.ปันจี ฟอร์ตูนา ฮาดิโซอีมาร์โต นักระบาดวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยปัดจัดจาดารัน ในเมืองบันดุง กล่าวว่าสัดส่วนการตรวจคัดกรองหาผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในประเทศยังคงต่ำมาก และไม่ครอบคลุม การพบผู้ติดเชื้อรายใหม่อย่างต่อเนื่องน่าจะมาจากการที่รัฐบาลไม่ประสบความสำเร็จในการควบคุมการเดินทางของประชาชน ในช่วงปล่ยเดือนรอมฎอนที่ผ่านมามากกว่า และหากภายใน 3-4 วันข้างหน้านี้ จำนวนผู้ป่วยยังคงเพิ่มขึ้นในระดับสูงเช่นนี้อีก รัฐบาลควรกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์และการควบคุมทางสังคมที่เข้มงวดอีกครั้ง
ทั้งนี้ กรุงจาการ์ตาเริ่มการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เป็นลำดับขั้นเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว ส่วนกระทรวงคมนาคมอนุญาตให้ชาวอินโดนีเซียเดินทางข้ามเมืองและข้ามเกาะ “ได้อย่างเป็นทางการ” ตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา แต่ต้องปฏิบัติตามเงื่อนไขด้านสาธารณสุข.
เครดิตภาพ : REUTERS, AP
apecthai.com 