Jun 4, 2020( Last update Jun 4, 2020 15:26 )VoiceTV

ตัวเลขผู้ติดเชื้อในภูมิภาคทางใต้และทางตะวันตกของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้านผู้เชี่ยวชาญเตือน การประท้วงอาจส่งผลให้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่ขยายกลุ่มเพิ่มขึ้น
ช่วงต้นสัปดาห์นี้จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่ในสหรัฐฯ มีอัตรการติดเชื้อเพิ่มขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่จำนวนตัวเลขผู้ติดเชื้อลดลงอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ก่อนหน้านี้ โดยเฉพาะในมลรัฐทางใต้และฝั่งตะวันตกของประเทศ
อาซ่า ฮัทชินสัน ผู้ว่าการรัฐอาร์คันซอกล่าวว่า เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาจำนวนผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 375 รายใน 24 ชม. ซึ่งเป็นตัวเลขที่มากสุดตั้งแต่มีการระบาดภายในรัฐฯ ขณะที่รัฐอริโซน่าก็มีรายงานผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นถึง 1,127 ราย ภายใน 24 ชม.เช่นกัน
ทางด้านรัฐแคลิฟอร์เนียมีรายงานจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากกว่า 3,000 รายภายใน 24 ชม. เช่นกัน ซึ่งนับเป็นครั้งที่ 2 ในรอบสัปดาห์ที่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากกว่า 3,000 ราย ส่งผลให้ปัจจุบันแคลิฟอร์เนียมีผู้ติดเชื้อแล้วกว่า 115,000 รายและมีผู้เสียชีวิตมากกว่า 4,300 ราย
เดวิด ไอเซนแมน ผู้อำนวยการศูนย์สุขภาพและภัยพิบัติ มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย (UCLA) กล่าวว่า จำนวนผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งอาจเกิดจากการกลับมาเปิดการดำเนินกิจกรรมทางเศรษฐกิจอีกครั้ง รวมถึงการเปิดให้ใช้พื้นที่สาธาณะทั้งชายหาดและสวนสาธารณะในช่วงที่อากาศเริ่มร้อนขึ้น รวมถึงการเพิ่มการตรวจหาผู้ติดเชื้อที่เพิ่มขึ้นก็เป็นปัจจัยที่ทำให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น
ไอเซนแมนยังกล่าวว่า ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาการเข้าร่วมชุมนุมประท้วงของประชาชนเป็นหนึ่งในปัจจัยโดยตรงที่อาจส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเช่นกัน
นอกจากนี้ เขายังออกมาเรียกร้องให้ควบคุมการใช้แก๊สน้ำตากับกลุ่มผู้ชุมนุม เนื่องจากการใช้แก๊สน้ำตาและสเปรย์พริกไทยของเจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำให้เกิดการไอและจาม รวมไปถึงถอดหน้ากากออกด้วยเช่นกัน ซึ่งจะเป็นสาเหตุการให้แพร่การจายของเชื้อไวรัสเพิ่มขึ้น
ทางด้านดร. ซันเจย์ กัฟต้า บรรณาธิการข่าวการแพทย์ของซีเอ็นเอ็นกล่าวว่า การประท้วงในสหรัฐฯ อาจทำให้เชื้อโควิด-19 แพร่กระจายได้ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น การสวมหน้ากากอนามัย การรวมกลุ่มใกล้ชิดของผู้ประท้วงและระยะเวลาในการรวมกลุ่มกันของกลุ่มผู้ชุมนุม
ทั้งนี้ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ( 3 มิ.ย. ) นักเตะของสโมสร Amen Ogbongbemiga ทวีตว่า เขาติดเชื้อโควิด-19 หลังจากการเข้าร่วมการประท้วงในทุลซ่า
การประท้วงเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมแก่ ‘จอร์จ ฟลอยด์’ ชาวแอฟริกันอเมริกัน วัย 46 ปี ผู้ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจผิวขาว ‘ดีเร็ก ชอฟวิน’ จับใส่กุญแจมือไพล่หลัง พร้อมใช้หัวเข่ากดคอเพื่อตรึงลงกับพื้นถนนซึ่งเป็นเหตุให้เขาหัวใจล้มเหลวและเสียชีวิตเมื่อวันที่ 25 พ.ค. ที่ผ่านมาได้กลายเป็นชนวนประท้วงต่อเนื่องในหลายเมืองทั่วสหรัฐฯ ตั้งแต่ช่วงกลางสัปดาห์ที่แล้วจนถึงปัจจุบัน
ที่มา The Guardian / CNN
CR:VoiceTV
