สถานการณ์โควิด-19 ในภูมิภาคอเมริกา ‘ยังวิกฤติ’

อังคารที่ 2 มิถุนายน 2563 เวลา 14.18 น. เดลินิวส์

องค์การอนามัยโลกเป็นห่วงสถานการณ์โรคโควิด-19 ในอเมริกากลางและใต้ “ที่ยังไม่พ้นขีดอันตราย” โดยเฉพาะในบราซิล ชิลี และเม็กซิโก พร้อมทั้งขอให้รัฐบาลเพิ่มความสนับสนุนระบบสาธารณสุขของประเทศ

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 2 มิ.ย.ว่านพ.ไมเคิล ไรอัน ผู้อำนวยการโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันจันทร์ ว่าสถิติของดับเบิลยูเอชโอยืนยันผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 ทั่วโลกอย่างน้อย 6.3 ล้านคน นับตั้งแต่มีการพบผู้ป่วยคนแรกอย่างเป็นทางการในจีน เมื่อปลายเดือนธ.ค.ปีที่แล้ว แม้มีผู้ได้รับการรักษาจนหายแล้ว 2.9 ล้านคน แต่ผู้เสียชีวิตยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นมากกว่า 377,000 คนแล้ว

ทั้งนี้ ดับเบิลยูเอชโอยังมีความวิตกกังวลอย่างยิ่งต่อสถานการณ์ในอเมริกากลางและอเมริกาใต้ ที่กำลังเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดของโรค เนื่องจากใน 10 อันดับประเทศที่มีการยืนยันผู้ป่วยรายวันสูงที่สุดนั้น เป็นประเทศในภูมิภาคแห่งนี้ 4 ประเทศ ได้แก่ บราซิล เปรู ชิลี และเม็กซิโก โดยเม็กซิโกเป็นประเทศที่ 7 ของโลก ที่มีผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่สะสมเกินกว่า 10,000 คน ขณะที่บราซิลมีผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งเป็นมากกว่า 500,000 คนแล้ว รองจากสหรัฐเท่านั้น และมีผู้เสียชีวิตใกล้ถึง 30,000 คน

ขณะเดียวกัน สถานการณ์ในอาร์เจนตินา โบลิเวีย โคลอมเบีย และเฮติ น่าเป็นห่วงเช่นกัน จากการที่ผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อรายวันยังเพิ่มขึ้น แม้หน่วยงานสาธารณสุขของหลายประเทศในแถบนี้มีความเข้าใจกับรูปแบบการติดต่อของโรคมากขึ้น แต่ข้อจำกัดด้านการสาธารณสุขกำลังเพิ่มความกดดันอย่างหนักให้กับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง รัฐบาลของแต่ละประเทศจึงควรเพิ่มการสนับสนุนบุคลากรการแพทย์ และระบบสาธารณสุขของตัวเอง ให้มากกว่าการเร่งผ่อนคลายล็อกดาวน์ เพราะการประเมินของดับเบิลยูเอชโอพบว่า ภูมิภาคนี้ “ยังไม่พ้นขีดอันตราย”.

เครดิตภาพ : AFP

CR: เดลินิวส์