ลาตินอเมริกาเป็น’ศูนย์กลางใหม่’ของไวรัสโคโรนา

เสาร์ที่ 23 พฤษภาคม 2563 เวลา 07.35 น. เดลินิวส์

เจ้าหน้าที่ระดับสูงขององค์การอนามัยโลกกล่าวว่า ภูมิภาคลาตินอเมริกากลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ของโรคโควิด-19 โดยสถานการณ์ในบราซิล “วิกฤติที่สุด”

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 23 พ.ค. ว่านพ.ไมเคิล ไรอัน ประธานโครงการฉุกเฉินด้านสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) แถลงเมื่อวันศุกร์ ว่าภูมิภาคลาตินอเมริกากลายเป็นศูนย์กลางการแพร่ระบาดแห่งใหม่ของโรคโควิด-19 โดยบราซิลซึ่งเป็นประเทศแรกที่มีการยืนยันผู้ป่วยเมื่อวันที่ 26 ก.พ. ที่ผ่านมานั้น เป็นประเทศที่เผชิญกับสถานการณ์วิกฤติที่สุด

  แม้รัฐเซาเปาลูซึ่งเป็นรัฐที่มีประชากรมากที่สุดและเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของบราซิล มีผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตยืนยันเป็นจำนวนสะสมมากที่สุด แต่อัตราการติดเชื้อสูงสุดในบราซิลอยู่ที่รัฐอามาโซนัส ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของบราซิล โดยอัตราการติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 490 คนต่อประชากร 100,000 คน

ขณะเดียวกัน ช่วงอายุของผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยจากโรคโควิด-19 ในบราซิล แตกต่างจากหลายประเทศบนโลก ที่จัดให้ผู้สูงอายุและบุคคลซึ่งมีโรคประจำตัวถือเป็นกลุ่มเสี่ยง แต่ผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในบราซิลส่วนใหญ่เป็นคนวัยหนุ่มสาว ซึ่งนพ.ไรอันวิเคราะห์ว่าสะท้อนหลายปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นระบบสาธารณสุขหรือเสถียรภาพทางเศรษฐกิจที่ยังไม่ครอบคลุม กดดันให้ประชาชนยังคงต้องหาทางเลี้ยงชีพท่ามกลางภาวะโรคระบาด

ทั้งนี้ นพ.ไรอันย้ำเมื่อต้นสัปดาห์นี้ด้วยว่า “ยังไม่มีหลักฐานเชิงประจักษ์” ยืนยันประสิทธิภาพของยาไฮดรอกซีคลอโรควิน ยาต้านโรคมาลาเรียที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ และประธานาธิบดีชาอีร์ โบลโซนารู ผู้นำบราซิล ยังคงเดินหน้าผลักดันให้มีการใช้จริงกับผู้ป่วยโรคโควิด-19

ถ้อยแถลงของนพ.ไรอันเกิดขึ้นในวันเดียวกับที่กระทรวงสาธารณสุขของบราซิลยืนยันผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 อีก 1,001 คน เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 21,048 คน ส่วนผู้ป่วยใหม่มีการยืนยันอีก 19,969 คน เพิ่มสถิติสะสมเป็นอย่างน้อย 330,890 คน แซงรัสเซียขึ้นมาเป็นอันดับ 2 ของการเป็นประเทศที่มีผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 มากที่สุดในโลก เป็นรองเพียงสหรัฐ.

เครดิตภาพ : REUTERS, AP

CR: เดลินิวส์