ทรัมป์งัดข้อกับศูนย์ควบคุมโรคเรื่องโควิด-19

พฤหัสบดีที่ 21 พฤษภาคม 2563 เวลา 16.56 น. เดลินิวส์

ศูนย์ป้องกันและควบคุมโรคของสหรัฐเคลื่อนไหว “อย่างเงียบเชียบ” ในการเผยแพร่แนวทางปฏิบัติเรื่องการเปิดเมือง ท่ามกลางกระแสวิจารณ์ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “ใช้การเมือง” ตัดสินใจมาตรการจัดการโรคระบาดโควิด-19

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 พ.ค.ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐ ( ซีดีซี ) ออกรายงานว่าด้วยแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการกลับมาเปิดสถานที่ทำงาน สถานศึกษา และสถานประกอบการอื่น เพื่อให้ทุกกลไกในประเทศขับเคลื่อนด้วยความปลอดภัย ท่ามกลางสถานการณ์โรคโควิด-19 “ที่ยังคงอยู่”

ทั้งนี้ ซีดีซีเผยแพร่ข้อมูลดังกล่าวซึ่งมีความยาว 60 หน้าบนเว็บไซต์ที่เป็นทางการของตัวเอง “อย่างเงียบเชียบ” บนเว็บไซต์ของตัวเอง เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา โดยแนวทางปฏิบัติสำหรับสถานที่ส่วนใหญ่คือการติดตั้งเครื่องวัดอุณหภูมิ การจำกัดจำนวนคนต่อพื้นที่ การรักษาระยะห่างทางสังคม และการระงับกิจกรรมบางประเภท

อย่างไรก็ตาม รายงานฉบับนี้กลับไม่มีการระบุข้อควรปฏิบัติเกี่ยวกับศาสนสถาน ทั้งที่ก่อนหน้านั้นมีรายงานว่าซีดีซีกำลังสอบสวนเส้นทางโรคที่โบสถ์แห่งหนึ่งในรัฐอาร์คันซอ ซึ่งเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของประชาชนอย่างน้อย 3 คน และ 28% ของผู้เข้าร่วมกิจกรรมที่โบสถ์แห่งนี้ ระหว่างวันที่ 6 ถึง 8 มี.ค.ที่ผ่านมา รวม 92 คน ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

อนึ่ง แหล่งข่าวในทำเนียบขาวกล่าวว่าการเผยแพร่รายงานของซีดีซีมีความล่าช้านานประมาณ 1 สัปดาห์ เนื่องจากต้องผ่านการ “ตรวจสอบขั้นสุดท้าย” โดยคณะทำงานเฉพาะกิจของทำเนียบขาว ในการตอบสนองต่อโรคโควิด-19 ขณะที่ซีเอ็นเอ็นรายงานว่า ทำเนียบขาวและซีดีซีมีความขัดแย้งกันตั้งแต่ต้น หนึ่งในเจ้าหน้าที่อาวุโสของซีดีซีไม่เห็นด้วยต่อการที่ทรัมป์พุ่งเป้าไปที่จีนมากเกินไป จนมองข้ามสถานการณ์ในทวีปยุโรป ซึ่งซีดีซียื่นเรื่องขอให้ทรัมป์จำกัดการเดินทางระหว่างสหรัฐกับกลุ่มประเทศในทวีปยุโรปตั้งแต่วันที่ 2 มี.ค. แต่ทรัมป์ประกาศเมื่อวันที่ 11 มี.ค.

ส่วนเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งของซีดีซีกล่าวว่า การตัดสินใจของรัฐบาลทรัมป์เกี่ยวกับการบริหารจัดการวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ อ้างอิงการเมืองมากกว่าวิทยาศาสตร์ แม้ผู้นำสหรัฐยังไม่พูดถึงเรื่องนี้อย่างเปิดเผย แต่นายปีเตอร์ นาวาร์โร ที่ปรึกษาด้านนโยบายการค้าของทำเนียบขาว วิจารณ์การทำงานของซีดีซีว่า “น่าผิดหวัง” โดยเฉพาะเรื่องการตรวจคัดกรอง อย่างไรก็ดี นายอเล็กซ์ อาซาร์ รมว.กระทรวงสาธารณสุข ออกมาแก้ต่างให้ซีดีซีทุกครั้ง จนมีกระแสข่าวตามมาว่าทรัมป์ต้องการไล่อาซาร์ออกจากตำแหน่ง แต่ผู้นำสหรัฐปฏิเสธเรื่องนี้ในเวลาต่อมา.

เครดิตภาพ : AFP

CR: เดลินิวส์