อาทิตย์ที่ 17 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.09 น. เดลินิวส์

รัฐบาลจีนเรียกร้องประเทศที่ยังค้างชำระค่าธรรมเนียมต่อยูเอ็น ให้จ่ายเงินเข้าสู่องค์กรโดยเร็ว โดยเฉพาะสหรัฐ ยกระดับสงครามประสาทระหว่างสองมหาอำนาจท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดโควิด-19
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากนครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 16 พ.ค.ว่าสำนักงานคณะผู้แทนถาวรจีนประจำสหประชาชาติ ( ยูเอ็น ) ออกแถลงการณ์เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว ว่าอ้างอิงตามสถิติจากสำนักงานเลขาธิการยูเอ็นในรอบปีงบประมาณล่าสุด จนถึงวันที่ 14 พ.ค.ที่ผ่านมา การค้างชำระของประเทศสมาชิกต่องบประมาณส่วนกลาง และเข้าสู่กองทุนภารกิจรักษาสันติภาพ อยู่ที่ 1,630 และ 2,140 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ ( ราว 52,265.96 และ 68,619.1 ล้านบาท )
อย่างไรก็ตาม หากจำแนกออกเป็นรายประเทศแล้ว พบว่าสหรัฐคือประเทศที่ยังค้างชำระเงินทั้งสองส่วนมากที่สุด คิดเป็นจำนวนประมาณ 1,165 และ 1,332 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามลำดับ ( ราว 37,355.7 และ 42,710.5 ล้านบาท )
จวบจนถึงปัจจุบันสหรัฐคือประเทศผู้บริจาครายใหญ่ที่สุดของยูเอ็น คิดเป็นประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี ( ราว 96,195 ล้านบาท ) หรือ 22% ของงบประมาณรายปี และยังจ่ายเงินสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพอีกปีละ 6,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 192,390 ล้านบาท ) หรือราว 1 ใน 4 ของงบประมาณต่อปีสำหรับโครงการดังกล่าว
ด้านสำนักงานคณะผู้แทนถาวรสหรัฐประจำยูเอ็นออกแถลงการณ์แสดงความไม่พอใจต่อแถลงการณ์ดังกล่าว และวิจารณ์ว่าเป็นอีกครั้งที่จีนพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของชาวโลก ในเรื่องการปิดบังข้อมูลเกี่ยวกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเผยว่ารัฐบาลวอชิงตันเพิ่มจ่ายค่าสนับสนุนภารกิจรักษาสันติภาพ 726 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 23,279.19 ล้านบาท )
อนึ่ง ในรายงานของยูเอ็นเมื่อวันที่ 11 พ.ค.ที่ผ่านมา มีการระบุคำกล่าวของนายอันโตนิโอ กูเตร์เรสเลขาธิการยูเอ็น ยอมรับว่าการชำระเงินของสมาชิกแต่ละประเทศอาจมีความล่าช้าในช่วงกลางปีนี้ หากสภาพคล่องทางการเงินของนานาประเทศยังไม่ดีขึ้น ท่ามกลางวิกฤติรุมเร้ารอบด้าน
ขณะที่เมื่อวันพฤหัสบดีที่่ผ่านมา ยูเอ็นยืนยันสมาชิก 50 จาก 193 ประเทศชำระค่าธรรมเนียมเข้ามาแล้วแบบเต็มจำนวน หนึ่งในนั้นคือจีน ซึ่งชำระเงินเข้ากองทุนส่วนกลางในสัดส่วน 12% และอุดหนุนภารกิจรักษาสันติภาพในสัดส่วน 15%.
เครดิตภาพ : AFP
CR: เดลินิวส์
