พฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.47 น. เดลินิวส์

อินเดียซึ่งเป็นหนึ่งในประเทศที่มีระบบรถไฟใหญ่ที่สุดในโลก กลับมาให้บริการระบบรางเมื่อต้นสัปดาห์นี้ หลังปิดตั้งแต่ปลายเดือนมี.ค. เพื่อควบคุมโรคระบาดโควิด-19 ด้านรัฐบาลกลางเตรียมทุ่มงบมหาศาล 8.5 ล้านล้านบาท เพื่อเยียวยาประชาชน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย เมื่อวันที่ 14 พ.ค.ว่าระบบรถไฟของอินเดียซึ่งเป็นหนึ่งในเครือข่ายระบบรางใหญ่ที่สุดของโลก กลับมาให้บริการอีกครั้งตั้งแต่วันอังคารที่ผ่านมา หลังปิดไปนานเกือบ 50 วันตามคำสั่งของนายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี ซึ่งบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ทั่วประเทศตั้งแต่วันที่ 25 มี.ค. ที่ผ่านมา ครอบคลุมประชากร 1,300 ล้านคน จนมีการขนานนามว่าเป็นการล็อกดาวน์ครั้งใหญ่ที่สุดของโลก
ทั้งนี้ ข้อมูลเบื้องต้นจากสื่อท้องถิ่นหลายแห่งระบุว่า รถไฟ 2 ขบวนแรกที่ออกเดินทางจากสถานีในกรุงนิวเดลี เมื่อช่วงบ่ายของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น มีผู้โดยสารรวมกันประมาณ 2,300 คน ขณะที่สถิติจากการจำหน่ายบัตรโดยสารล่วงหน้าใน 30 เส้นทางเมื่อวันจันทร์ ปรากฎว่าจำหน่ายได้มากกว่า 54,000 ใบ ภายในระยะเวลาเพียง 3 ชั่วโมง อนึ่ง ตอนนี้ตารางเดินรถยังเป็นแบบเก่าที่ใช้ในช่วงก่อนเข้าสู่มาตรการล็อดาวน์ โดยการรถไฟอินเดียจะเริ่มใช้กำหนดการใหม่ในวันที่ 20 พ.ค. นี้
ด้านโมดีแถลงเมื่อวันพุธ ว่ารัฐบาลเตรียมจัดสรรงบประมาณเยียวยาทุกภาคส่วนจากวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 เพิ่มเป็น 20 ล้านล้านรูปี ( ราว 8.54 ล้านล้านบาท ) เทียบเท่า 10% ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศ ( จีดีพี ) หลังประกาศเมื่อเดือนมี.ค. ไว้ที่ 1.7 ล้านล้านรูปี ( ราว 83,486 ล้านบาท ) เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากหลายฝ่ายว่าน้อยเกินไปเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรทั้งประเทศ
นอกจากนี้ ผู้นำอินเดียกล่าวด้วยว่าเตรียมขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ต่อไปอีก หลังคำสั่งปัจจุบันจะหมดอายุในวันที่ 17 พ.ค. นี้ แต่จะมีการผ่อนผันมากขึ้นเป็นลำดับ หลังอนุญาตให้ภาคเกษตรกรรม อุตสาหกรรมและธุรกิจแทบทุกแขนงกลับมาเปิดโรงงานและสำนักงานได้แล้ว แต่ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขด้านการรักษาระยะห่างทางสังคม.
เครดิตภาพ : REUTERS
CR: เดลินิวส์
