พฤหัสบดีที่ 14 พฤษภาคม 2563 เวลา 07.37 น. เดลินิวส์

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ “รับไม่ได้” ต่อการที่นพ.แอนโธนี เฟาซี หัวหน้าทีมงานแพทย์เฉพาะกิจต่อสู้กับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 เตือนรัฐบาสหรัฐ ว่าการลดระดับความเข้มงวดของมาตรการล็อกดาวน์เร็วเกินไป “จะนำมาซึ่งหายนะที่อาจเอาไม่อยู่”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 14 พ.ค. ว่าประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐ กล่าวเมื่อวันพุธ ถึงมุมมองของนพ.แอนโธนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันโรคติดต่อและภูมิแพ้แห่งชาติของสหรัฐ ( เอ็นไอเอช ) เกี่ยวกับ “อันตราย” ของการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่เร็วเกินไป ว่าอาจกลายเป็นต้นเหตุของการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 ระลอกสองในสหรัฐ ว่าเขา “รับไม่ได้” กับคำพูดของอีกฝ่าย โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องการให้ปิดโรงเรียนต่อไปก่อน ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยอย่างยิ่ง
อนึ่ง ทรัมป์เคยรีทวีตข้อความเรียกร้องให้มีการปลดนพ.เฟาซีออกจากตำแหน่งผู้อำนวยการสถาบันเอ็นไอเอช และหัวหน้าฝ่ายบุคลากรการแพทย์ของทีมงานเฉพาะกิจของทำเนียบขาว ในการต่อสู้กับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แต่กระแสสังคมตีกลับอย่างหนัก และผู้นำสหรัฐออกมาปฏิเสธว่าเขาไม่เคยมีความคิดนั้น แม้ยอมรับว่า “ไม่ได้มีความเห็นไปในทางเดียวกันทุกเรื่อง”
ทั้งนี้ นพ.เฟาซีกล่าวต่อคณะกรรมาธิการด้านสาธารณสุขของวุฒิสภาสหรัฐ เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา ว่าการผินคลายมาตการล็อกดาวน์ที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะดำเนินการเร็วเกินไปและขาดการวางแผนอย่างรัดกุม มีความเสี่ยงสูงที่จะเป็นชนวนของการแพร่ระบาดระลอกสอง ซึ่งสถานการณ์จะรุนแรงกว่าวิกฤติครั้งแรกจนอาจไม่สามารถควบคุมได้
ขณะที่นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครนิวยอร์ก ซึ่งเป็นเมืองใหญ่แห่งแรกที่สั่งปิดโรงเรียนทุกแห่งในพื้นที่ตลอดปีการศึกษานี้ โดยให้จัดการเรียนการสอนออนไลน์แทน กล่าวว่าเขาเห็นด้วยกับคำเตือนของนพ.เฟาซี ด้านระบบมหาวิทยาลัยแห่งรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นอุดมศึกษาใหญ่ที่สุดของสหรัฐ โดยมีวิทยาเขตในสังกัด 23 แห่ง ประกาศระงับการเรียนการสอนภายในห้องเรียนประจำภาคเรียนฤดูใบไม้ร่วง ที่จะเริ่มขึ้นในเดือนก.ย. นี้ และให้เปลี่ยนเป็นการเรียนการสอนแบบออนไลน์แทน
ส่วนพญ.บาร์บรารา เฟอร์เรอร์ สาธารณสุขประจำเขตลอสแอนเจลิส ซึ่งมีพื้นที่ดูแลครอบคุลมนครลอสแอนเจลิส เมืองใหญ่ที่สุดของรัฐแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีประชากรมากกว่า 10 ล้านคน กล่าวว่าการมีการขยายเวลาบังคับใช้มาตรการควบคุมการออกนอกเคหสถานของประชาชนออกไปอีก 3 เดือน หรือให้ครอบคลุมดฤดูร้อนที่กำลังจะมาถึง.
เครดิตภาพ : REUTERS
CR: เดลินิวส์
