อังกฤษ ‘ขอความร่วมมือ’ ประชาชนสวมแมสก์

อังคารที่ 12 พฤษภาคม 2563 เวลา 08.04 น. เดลินิวส์

รัฐบาลสหราชอาณาจักรขอให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในสภานที่สาธารณะ ในขณะที่เริ่มเข้าสู่ช่วงเวลาของการผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์ที่ใช้ควบคุมโรคระบาดโควิด-19

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 12 พ.ค. ว่ารัฐบาลสหราชอาณาจักรเผยแพร่เอกสารความยาว 50 หน้า เมื่อวันจันทร์ เป็นรายละเอียดต่อยอดจากการแถลงเมื่อวันอาทิตย์ของนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นสัน ว่าด้วยแนวทางผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างเป็นลำดับขั้น เพื่อให้ประชาชนกลับมาดำเนินชีวิต “ตามแนวทางใหม่” ท่ามกลางวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

อย่างไรก็ตาม เอกสารดังกล่าวมีมาตรการสำคัญเพิ่มเข้ามา แต่ไม่เหนือความคาดหมายเนื่องจากเป็นไปตามกระสข่าวที่แพร่ออกมาระยะหนึ่งแล้ว นั่นคือมาตรการกักตัว 14 วัน พลเมืองทุกสัญชาติซึ่งเดินทางด้วยเที่ยวบินพาณิชย์เข้ามายังสหราชอาณาจักร และ “การขอความร่วมมือ” ให้ประชาชนสวมหน้ากากอนามัย และรักษาระยะห่างอย่างเคร่งครัดเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ โดยเฉพาะ “สถานที่ปิด” เช่นภายในร้านค้าและระบบขนส่งสาธารณะ

ในวันเดียวกัน จอห์นสันกล่าวถึงเรื่องนี้ต่อที่ประชุมสภาสามัญ ซึ่งสมาชิกในห้องบางตาลงอย่างชัดเจน เนื่องจากมาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม ที่อนุญาตเฉพาะ “ผู้เกี่ยวข้องโดยตรง” ในการเข้าสู่ห้องประชุม ว่าทุกฝ่ายต้องยอมรับรูปแบบการใช้ชีวิตที่จะเปลี่ยนไป “อย่างน้อยในตอนนี้” แต่แผนการที่รัฐบาลของเขากำหนดขึ้นมีวัตถุประสงค์เพื่อความปลอดภัยด้านสุขภาพของประชาชนเป็นสำคัญ ซึ่งถือเป็นการกลับลำด้านนโยบายอย่างชัดเจน จากก่อนหน้านี้ที่จอห์นสันเสนอแนวคิดภูมิคุ้มกันหมู่ เรียกเสียงวิจารณ์อย่างหนักจากองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ )

แม้รัฐบาลกลางในกรุงลอนดอนเริ่มผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ แต่สกอตแลนด์และเวลส์ยังควคำสั่งนี้ไว้ต่อไปก่อน ส่วนไอร์แลนด์เหนืออยู่ระหว่างปรับปรุงแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขในท้องที่ของตัวเอง.

เครดิตภาพ : REUTERS

CR:เดลินิวส์