จันทร์ที่ 11 พฤษภาคม 2563 เวลา 13.55 น. เดลินิวส์
ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนีวิเคราะห์ว่า การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ กำลังกลับมาอยู่ในอัตราเร่งอีกครั้ง
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี เมื่อวันที่ 11 พ.ค.ว่าสถาบันโรเบิร์ต ค็อก ซึ่งเป็นศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของเยอรมนี เผยแพร่รายงานเมื่อวันอาทิตย์ เกี่ยวกับสถานการณ์โรคโควิด-19 ในประเทศ ว่าอัตราเฉลี่ยการแพร่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในเยอรมนีเพิ่มจากเพียง 0.65 เมื่อวันที่ 6 พ.ค. ขึ้นมาเป็น 1.1 หมายความว่า ผู้มีเชื้ออยู่ในร่างกาย 10 คน สามารถแพร่เชื้อให้กับบุคคลรอบข้างอีก 11 คน หรือแทบจะ 1 ต่อ 1
ทั้งนี้ การควบคุมโรคโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากลนั้น ค่าระดับการติดเชื้อพื้นฐานต้องต่ำกว่า1 “เป็นช่วงระยะเวลาพอสมควร” อย่างไรก็ตาม เมื่อปลายสัปดาห์ที่แล้ว เจ้าหน้าที่สาธารณสุขของเยอรมนีตรวจพบการแพร่ระบาดเป็นเป็นกลุ่มก้อนครั้งใหม่ ที่โรงฆ่าสัตว์หลายแห่ง
อาทิ ที่รัฐนอร์ดไรน์-เวสต์ฟาเลน ซึ่งมีประชากรมากที่สุดในประเทศ โดยที่โรงงานแห่งนี้มีผู้ติดเชื้อแล้ว 200 คน จากจำนวนพนักงานทั้งหมด 1,200 คน และยังพบการติดโรคแบบกลุ่มตามศูนย์ดูแลผู้สูงอายุอีกหลายแห่งด้วย
แม้ยังเร็วเกินไปที่จะสรุปว่า สถานการณ์โรคโควิด-19 ในเยอรมนีจะกลับมา “วิกฤติ” อีกครั้งหรือไม่ แต่รายงานของสถาบันโรเบิร์ต ค็อก ระบุว่าต้องติดตามแนวโน้มการพบผู้ป่วยใหม่ในประเทศอย่างใกล้ชิดในระยะนี้
การเผยแพร่รายงานของโรเบิร์ต ค็อก เกิดขึ้นเพียงไม่กี่วัน หลังนายกรัฐมนตรีอังเกลา แมร์เคิล กล่าวว่าเยอรมนีผ่านพ้นการแพร่ระบาด “ระยะแรก” ของโรคโควิด-19 รัฐบาลท้องถิ่นของหลายรัฐจึงเริ่มผ่อนปรนมาตรการล็อกดาวน์
ทั้งนี้ รัฐบาลท้องถิ่นของทั้ง 16 รัฐในเยอรมนีเห็นพ้องกับแมร์เคิล ว่าจะกลับมาใช้มาตรการล็อกดาวน์ที่เข้มงวดอีกครั้งหากอัตราการแพร่ระบาดในเมืองใดก็ตามเพิ่มเป็น 50 คนต่อประชากร 100,000 คนภายใน 1 สัปดาห์ ซึ่งรายงานของโรเบิร์ต ค็อก ระบุว่าเกิดขึ้นแล้ว “อย่างน้อยใน 3 เมือง”.
เครดิตภาพ : AFP
CR: เดลินิวส์
apecthai.com 