อาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม 2563 เวลา 09.00 น. เดลินิวส์

รัฐบาลปักกิ่งกล่าวว่าวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 “คือบทเรียนสำคัญ” เพื่อปรับปรุงระบบสาธารณสุขของประเทศ “ครั้งใหญ่”
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงปักกิ่ง ประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 พ.ค.ว่านายหลี่ ปิน รองประธานคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติของจีน แถลงเมื่อวันเสาร์ ว่าวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในจีนถือเป็น “บททดสอบครั้งสำคัญ” ของระบบการจัดการและศักยภาพด้านการบริหารของรัฐบาล วิกฤติสาธารณสุขครั้งนี้สะท้อนให้เห็น “ข้อบกพร่องหลายประการ” ว่าการรับมือกับการแพร่ระบาดครั้งใหญ่ของโรคหนึ่ง และโครงสร้างระบบสาธารณสุขของจีน “ยังมีปัญหาหลายด้าน”
เบื้องต้นคณะกรรมาธิการสาธารณสุขแห่งชาติเตรียมจัดทำและปฏิรูปโครงสร้างการบริหาร “ที่เป็นศูนย์กลางและมีประสิทธิภาพ” เพื่อยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันโรคของจีนให้มีความทันสมัยมากยิ่งขึ้น โดยจะมีการรวบรวมข้อมูลเป็นฐานแบบ “บิ๊กดาต้า” การใช้ปัญญาประดิษฐ์ และการประมวลผลบนระบบคลาวด์ ในการวิเคราะห์โรค สืบเสาะค้นหาร่องรอยของเชื้อไวรัส และการกระจายทรัพยากรที่เกี่ยวข้องให้มีประสิทธิภาพ เพื่อการคาดการณ์ทิศทางของโรคได้อย่างเที่ยงตรงและเพื่อการเตรียมพร้อมอย่างรัดกุมมากขึ้นในอนาคต
ขณะที่แผนการอื่นของคณะกรรมาธิการยังรวมถึงการแก้ไขบางมาตราของกฎหมายสาธารณสุข และการยกระดับความร่วมมือด้านสาธารณสุขกับรัฐบาลทั่วโลกด้วย อนึ่ง เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา น.ส.หัว ชุนหยิง โฆษกหญิงกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่ารัฐบาลปักกิ่งพร้อมให้ความร่วมมือกับองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ในการตรวจสอบมาตรการตอบสนองของรัฐบาลทั่วโลกต่อวิกฤติโรคโควิด-19 “แต่เมื่อสถานการณ์คลี่คลายแล้วเท่านั้น”
ทั้งนี้ ความเคลื่อนไหวดังกล่าวของรัฐบาลปักกิ่งเกิดขึ้นในขณะที่รัฐบาลสหรัฐของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เดินหน้ากดดันจีนอย่างหนัก ว่าเป็น “แหล่งอุบัติ” ของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และยังปิดบังข้อมูลสำคัญหลายอย่าง ซึ่งรัฐบาลปักกิ่งตอบโต้แล้วหลายครั้งผ่านช่องทางการทูตและสื่อในสังกัด.
เครดิตภาพ : AP, REUTERS
CR: เดลินิวส์
