จันทร์ที่ 4 พฤษภาคม 2563 เวลา 15.59 น. เดลินิวส์

นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ประกาศต่อเวลาบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินจนถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้เสียชีวิตในญี่ปุ่นสะสมมากกว่า 500 คนแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 4 พ.ค.ว่านายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แถลงเมื่อวันจันทร์ ว่าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายระยะเวลาบังคับใช้สถานการณ์ฉุกเฉินทั่วประเทศ จากวิกฤติการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ให้มีผลถึงวันที่ 31 พ.ค.นี้ จากเดิมซึ่งคำสั่งจะสิ้นสุดในวันพุธที่ 6 พ.ค.
ทั้งนี้ ผู้นำญี่ปุ่นประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินจากโรคโควิด-19 ครั้งแรกเมื่อวันที่ 7 เม.ย. ที่ผ่านมา แต่ในรอบแรกมีผลบังคับใช้ครอบคลุมเฉพาะกรุงโตเกียวและจังหวัดใหญ่อีก 6 แห่ง ต่อจากนั้นอาเบะยกระดับมาตรการให้มีผลบังคับใช้ครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.ที่ผ่านมา
ขณะเดียวกัน อาเบะเรียกร้องประชาชนเพิ่มความร่วมมือกับมาตรการทางสังคมของภาครัฐให้มากกว่านี้ ไม่ว่าจะเป็นการหลีกเลี่ยงออกจากบ้านหากไม่มีกิจจำเป็น การรักษาระยะห่างระหว่างกันเมื่ออยู่ในสถานที่สาธารณะ และการทำงานที่บ้าน เพื่อให้ถึงเป้าหมาย “ความร่วมมือ 80%” โดยผู้นำญี่ปุ่นกล่าวอย่างตรงไปตรงมา ว่าตอนนี้บุคลากรการแพทย์ “กำลังกดดันอย่างหนัก” และ “ต้องการความช่วยเหลือจากประชาชน”
นึ่ง อาเบะกล่าวว่ารัฐบาลจะประเมินสถานการณ์ครั้งต่อไปในวันที่ 14 พ.ค.นี้ และหากได้รับการตอบสนองจากประชาชน “ตามเป้าหมาย” ภาครัฐอาจผ่อนคลายข้อจำกัดบางประการ อย่างไรก็ตาม ยังไม่เป็นที่ชัดเจนว่าโรงเรียนซึ่งหยุดจัดการเรียนการสอนภายในห้องเรียนตั้งแต่เดือนมี.ค.ที่ผ่านมา จะกลับมาเปิดอีกครั้งเมื่อใด
ปัจจุบันญี่ปุ่นมีอัตราส่วนเตียงสำหรับผู้ป่วยอาการหนักในห้องไอซียู เพียง 5 เตียง ต่อประชากร 100,000 คน น้อยกว่าครึ่งเมื่อเทียบกับอัตราส่วนของอิตาลี ขณะที่โรงพยาบาลขนาดใหญ่พยายามยกระดับมาตรการตรวจคัดกรองให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น รวมถึงมีการเปิดจุดบริการตรวจแบบไดรฟ์-ทรู ด้านจำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องเป็นมากกว่า 15,000 คน และเสียชีวิแล้วมากกว่า 500 คน.
เครดิตภาพ : AFP, REUTERS
CR: เดลินิวส์
