พุธที่ 29 เมษายน 2563 เวลา 08.18 น. เดลินิวส์

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ต่อเวลามาตรการล็อกดาวน์ในรัสเซียจากเดิมที่จะสิ้นสุดในวันที่ 30 เม.ย. ออกไปถึงวันที่ 11 พ.ค. เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่มีผู้เเสียชีวิตเกือบ 900 คนแล้ว
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมอสโก ประเทศรัสเซีย เมื่อวันที่ 29 เม.ย. ว่าประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แถลงเมื่อวันอังคาร เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ยืนยันรัฐบาลยังสามารถควบคุมสถานการณ์ได้ อย่างไรก็ตาม วิกฤติด้านสาธารณสุขในรัสเซียจากเชื้อโรคดังกล่าวยังอยู่ในภาวะซับซ้อน และ “ยังไม่ผ่านพ้นจุดวิกฤติ” โดยในรัสเซียมีผู้เสียชีวิตแล้ว 867 คน จากจำนวนผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 93,558 คน เป็นอันดับ 8 ของโลก ส่วนผู้ที่หายป่วยแล้วมีอย่างน้อย 8,456 คน
ด้วยเหตุนี้ ปูตินกล่าวว่าเขาจึงตัดสินใจขยายระยะเวลาบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งบังคับใช้ครั้งแรกเมื่อปลายเดือนมี.ค. ที่ผ่านมา แล้วเดิมทีรัฐบาลตั้งใจต่อเวลาบังคับใช้จนถึงวันที่ 30 เม.ย. ให้ขยายระยะเวลาครอบคลุมอีกจนถึงวันที่ 11 พ.ค. นี้ ผู้นำรัสเซียกล่าวว่าโรคโควิด-19 “มีผลกระทบกับทุกคน” ดังนั้นชาวรัสเซีย “ต้องตั้งใจและมีระเบียบวินัย” เพื่อให้บ้านเมืองผ่านพ้นวิกฤติครั้งนี้เร็วที่สุด
ขณะเดียวกัน ปูตินสั่งให้รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีมิคาอิล มิชุสติน เสนอร่างแผนการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์อย่างเป็นขั้นตอนภายในสัปดาห์นี้ เพื่อให้มีการพิจารณาแล้วเริ่มบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 12 พ.ค. นอกจากนี้ รัฐบาลต้องเสนอร่างแผนช่วยเหลือเยียวยาทางเศรษฐกิจแก่ประชาชนด้วย ซึ่งจะเป็นการใช้งบประมาณฉุกเฉินครั้งที่ 3 ของรัฐบาล นับตั้งแต่รัสเซียเผชิญกับวิกฤติโรคระบาดโควิด-19
ทั้งนี้ รัสเซียใช้งบประมาณไปแล้วมากกว่า 3 ล้านล้านรูเบิล ( ราว 1.3 ล้านล้านบาท ) เพื่อให้ความช่วยเหลือทุกภาคส่วนในประเทศที่ได้รับความเดือดร้อน โดยมาตรการรวมถึงเงินช่วยเหลือผู้ที่ต้องว่างงานในช่วงนี้เพิ่มเป็น 12,130 รูเบิลต่อเดือน ( ราว 5,314.18 บาท ) สวัสดิการดูแลเด็กอายุต่ำกว่า 3 ปี เพิ่มเป็นเดือนละ 5,000 รูเบิล ( ราว 2,190.5 บาท ) และการยกเว้นภาษีให้กับธุรกิจขนาดเล็กและขนาดกลางเป็นเวลา 6 เดือน
ส่วนเงินทุนต่างชาติที่ไหลออกก่อนกำหนดในระยะนี้ต้องเสียภาษีเพิ่มจาก 2% เป็น 13% และจะมีการเก็บภาษีเงินฝากจากบัญชีที่มียอดเงินมากกว่า 1 ล้านรูเบิล ( ราว 438,102.2 บาท ) แล้วนำเงินที่ได้ไปช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย
อนึ่ง ปูตินแสดงความกังวลต่อประสิทธิภาพของมาตรการควบคุมโรค เนื่องจากเครื่องมือแพทย์หลายชนิดยังไม่เพียงพอ แม้ในเดือนนี้รัสเซียสามารถผลิตเครื่องช่วยหายใจได้อีกมากกว่า 800 เครื่อง หน้ากากอนามัยอีกมากกว่า 8.5 ล้านชิ้น และภายในสิ้นเดือนนี้จะเพิ่มการผลิตชุดป้องกันส่วนบุคคล ( พีพีอี ) อีก 100,000 ชุด แต่ผู้นำรัสเซียกล่าวว่า “ยังน้อยเกินไป” ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพิ่มการผลิต และเสนอให้เพิ่มการตรวจคัดกรองเป็น 150,000 ตัวอย่างต่อวันด้วย.
เครดิตภาพ : AP, REUTERS
CR: เดลินิวส์
