เสาร์ที่ 25 เมษายน 2563 เวลา 14.00 น. เดลินิวส์

ท่ามกลางวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ที่ยังไม่มีวี่แววว่าจะหายไปจากโลกในเร็ววันนี้ เท่ากับว่ามนุษย์ต้องอยู่ร่วมกับเชื้อไวรัสชนิดนี้อีกนาน ซึ่งเกาหลีใต้เป็นหนึ่งในประเทศที่กำหนด “แนวทางการใช้ชีวิตแบบใหม่” ให้กับประชาชน
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ เมื่อวันที่ 25 เม.ย.ว่าศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคเกาหลี ( เคซีดีซี ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันเสาร์ เป็นการรายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 รายวันในประเทศ ว่าจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมคงอยู่ที่อย่างน้อย 240 คนนานต่อเนื่องเป็นวันที่ 3 ติดต่อกัน
ขณะที่จำนวนผู้ป่วยสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 10,718 คน โดยมีการยืนยันผู้ป่วยใหม่อีก 10 คน จากจำนวนดังกล่าว 4 คนเป็นผู้ที่เดินทางมาจากต่างประเทศ เป็นพลเมืองต่างชาติ 2 คน นอกจากนี้ ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดมีผู้ได้รับการรักษาหายอีก 134 คน เพิ่มสถิติในส่วนนี้เป็นอย่างน้อย 8,635 คน และหมายความว่ามีผู้ป่วยเหลืออยู่ในระบบอย่างน้อย 2,083 คน
ทั้งนี้ เกาหลีใต้ตรวจคัดกรองประชาชนไปแล้วอย่างน้อย 595,161 คน ควบคู่ไปกับการกระจายกำลังเจ้าหน้าที่จำนวนมาหลงพื้นที่ค้นหาประชาชนเข้าข่ายเป็นกลุ่มเสี่ยงแล้วนำเข้าสู่กระบวนการเฝ้าระวัง การพัฒนาแอปพลิเคชั่นที่เกี่ยวข้อง และการกำหนดแนวทางปฏิบัติทางสังคม “นิวนอร์ม” หรือวิถีการดำรงชีวิตในรูปแบบใหม่ ซึ่งได้รับความร่วมมือจากประชาชนในระดับที่น่าพึงพอใจ เพิ่มความหวังให้กับทุกฝ่าย ว่าจำนวนผู้ป่วยใหม่จากโรคโควิด-19 ในเกาหลีใต้จะลดลงเป็นศูนย์ในอีกไม่นานนี้
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลเกาหลีใต้มีมติขยายระยะเวลามาตรการทางสังคมออกไปจนถึงวันที่ 5 พ.ค.นี้ ด้านกระทรวงสาธารณสุขของเกาหลีใต้ได้เผยแพร่แนวทางปฏิบัติทางสังคมเพิ่มเติม พร้อมคำเตือนว่า เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่จะอยู่ร่วมสังคมเดียวกับมนุษย์ไปอีกไม่ต่ำกว่า 2 ปี และนับจากนี้ชาวเกาหลีใต้ไม่สามารถใช้ชีวิตในรูปแบบที่เคยเกิดขึ้นก่อนรู้จักกับโรคนี้ได้อีก
อนึ่ง แนวทางปฏิบัติ “ในสังคมใหม่” ตามแนวทางของรัฐบาบเกาหลีใต้ มีสาระสำคัญตั้งแต่ข้อกำหนดทั่วไป ไม่ว่าจะเป็นการกำหนดจุดล้างมือ จุดตรวจวัดอุณหภูมิร่างกาย การรักษาความสะอาดของสถานที่ การรักษาระยะห่างทางสังคม และการทำธุระส่วนตัวในสถานที่สาธารณะโดยใช้เวลาให้น้อยที่สุด และในยามจำเป็นที่สุดเท่านั้น
สำหรับการทำงานในสำนักงานขอให้เน้นการทำงานจากที่บ้านมากขึ้น หรือการเหลื่อมเวลาทำงานของพนักงานแต่ละคน เพื่อลดจำนวนบุคลากรในสำนักงานให้มากที่สุด การใช้ “เงินอิเล็กทรอนิกส์” เพื่อซื้อสินค้าและบริการ และการสวมหน้ากากอนามัยหรือหน้ากากผ้าเมื่อออกนอกเคหสถาน
กระนั้นพญ. จอง อึน-คยอง ผู้อำนวยการเคซีดีซี เตือนทุกฝ่ายว่า ต่อให้มีการกำหนดแนวทางปฏิบัติด้วยความรัดกุมแค่ไหน แต่หากประชาชนลดความตระหนักรู้และการเฝ้าระวัง มีโอกาสมากที่จะเกิดการแพร่ระบาดเป็นวงกว้างในชุมชนอีก.
เครดิตภาพ : REUTERS
CR: เดลินิวส์
