รัฐนิวยอร์กอาจมีผู้ติดไวรัสโคโรนามากถึง 2.7 ล้านคน

ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2563 เวลา 09.09 น. เดลินิวส์

ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์กของสหรัฐยอมรับว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในพื้นที่ อาจมีมากกว่าสถิติอย่างเป็นทางการ หลังผลตรวจแอนติบอดิในกลุ่มตัวอย่างบ่งชี้ว่าเกือบ 14% มีผลบวก คำนวณในทางสถิติคิดเป็นประมาณ 2.7 ล้านคน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 23 เม.ย. ว่าศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในรัฐแมริแลนด์ รายงานสถานการณ์โรคอุบัติใหม่ “โควิด-19” จากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ว่าในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดจนถึงเวลา 20.30 น. ตามเวลาท้องถิ่นของวันพฤหัสบดี ( 07.30 น. วันศุกร์ตามเวลาในประเทศไทย ) สหรัฐมีผู้เสียชีวิตจากโรคดังกล่าวอีก 3,176 คน ถือเป็นสถิติผู้เสียชีวิตรายวันสูงสุด

ทั้งนี้ จำนวนผู้เสียชีวิตสะสมจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐจึงเพิ่มเป็นอย่างน้อย 49,759 คน ขณะที่จำนวนผู้ป่วยสะสมอยู่ที่อย่างน้อย 866,646 คน เพิ่มขึ้น 26,971 คน โดยรัฐนิวยอร์กยังคงเป็นพื้นที่วิกฤติที่สุด ด้วยจำนวนผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 268,581 คน รักษาหายแล้ว 50,454 คน และเสียชีวิตอย่างน้อย 20,861 คน

นายแอนดรูว์ คูโอโม ผู้ว่าการรัฐนิวยอร์ก กล่าวว่าหน่วยงานสาธารณสุขหลายแห่งในพื้นที่ร่วมกันสุ่มตรวจแอนติบอดีของกลุ่มตัวอย่าง 3,000 คน จากซูเปอร์มาร์เก็ต 40 แห่ง พบว่าเกือบ 14% มีผลออกมาเป็นบวก คิดเป็นประมาณ 2.7 ล้านคน จากจำนวนประชากรประมาณ 19.45 ล้านคน

อย่างไรก็ตาม หากจำแนกตามเขตพบว่าสถิติในนครนิวยอร์กสูงถึง 21% คิดเป็นประมาณ 1.7 ล้านคน นำไปสู่การอนุมานว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในรัฐนิวยอร์กมีมากกว่าสถิติที่เผยแพร่เป็นทางการ โดยหากมีผู้เสียชีวิต 15,500 คน อัตราการติดเชื้ออยู่ที่ประมาณ 0.5%.

เครดิตภาพ : REUTERS

CR: เดลินิวส์