ม.ออกซฟอร์ดเริ่มทดสอบวัคซีน ‘โควิด-19’ กับมนุษย์

ศุกร์ที่ 24 เมษายน 2563 เวลา 08.33 น. เดลินิวส์

มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดในสหราชอาณาจักร เริ่มทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 กับกลุ่มตัวอย่างทั้งชายและหญิงรวมมากกว่า 1,000 คน

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงลอนดอน ประเทศสหราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 24 เม.ย. ว่าสถาบันไวรัสวิทยา แห่งมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดของสหราชอาณาจักร ออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี เริ่มการทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนป้องกันการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ กับกลุ่มตัวอย่างทั้งเพศชายและหญิงจำนวน 1,112 คน อายุระหว่าง 18 ปีถึง 55 ปี มีสุขภาพแข็งแรง และไม่มีประวัติการติดเชื้อไวรัสโคโรนา โดยกลุ่มตัวอย่างเพศหญิงต้องไม่เคยตั้งครรภ์ มีประวัติการให้นมบุตร เป็นแม่นมให้กับทารกมาก่อน

การทดสอบดังกล่าวถือเป็น “ระยะที่หนึ่ง” โดยแบ่งกลุ่มตัวอย่างออกเป็นกลุ่มละ 556 คน กลุ่มหนึ่งรับการฉีควัคซีนที่ทางมหาวิทยาลัยกำลังพัฒนา ซึ่งตอนนี้มีชื่ออย่างไม่เป็นทางการว่า “ChAdOx1 nCov-19” ขณะที่อาสาสมัครในกลุ่มตัวอย่างที่สองถือเป็น “กลุ่มควบคุม” ได้รับวัคซีนต่อต้านเชื้อไวรัสเยื่อหุ้มสมองอักเสบ อย่างไรก็ตาม กลุ่มตัวอย่างทั้งสองกลุ่มไม่ทราบว่าตัวเองได้รับการฉีดวัคซีนใด นอกเนหือจากากรรับทราบและยินยอมเข้าร่วมโครงการวิจัยเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่

ทั้งนี้ ทีมนักวิจัยยืนยันว่าการทดสอบครั้งนี้จะไม่มีผลข้างเคียงกับอาสาสมัครและไม่ทำลายระบบภูมิคุ้มกัน เบื้องต้นมีการตั้งเป้าประสบความสำเร็จสูงถึง 80% และมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดวางแผนผลิตวัคซีน ChAdOx1 nCov-19 จำนวน 1 ล้านโดสภายในเดือนก.ย.นี้ อนึ่ง วัคซีนทดลองของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์สกัดจากอดิโนไวรัสในร่างกายของลิงชิมแปนซี ซึ่งนักวิทยาศาสตร์หวังว่าจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายมนุษย์ให้ผลิตโปรตีนในจำนวนที่เหมาะสม เพื่อยับยั้งเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่.

เครดิตภาพ : REUTERS, AP

CR:เดลินิวส์