พฤหัสบดีที่ 23 เมษายน 2563 เวลา 19.29 น. เดลินิวส์

รัฐบาลญี่ปุ่นกำลังสอบสวน “ปริศนา” เรือสำราญซึ่งจอดเข้ารับการซ่อมบำรุงที่เมืองนางานาซากิตั้งแต่เกือบ 3 เดือนที่แล้ว ไม่มีใครลงจากเรือ แต่กลับมีผู้ป่วยโรคโควิด-19
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 23 เม.ย.ว่ากระทรวงสาธารณสุขของญี่ปุ่นออกแถลงการณ์เมื่อวันพฤหัสบดี เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งมีสาเหตุจากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ บนเรือสำราญ “คอสตา แอตแลนติกา” จดทะเบียนในอิตาลี และจอดเทียบท่าที่โรงซ่อมบำรุงของบริษัทมิตซูบิชิ เฮฟวี อินดัสทรีส์ ในเมืองนางาซากิ บนเกาะคิวชู ว่าผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นอย่างน้อย 48 คน
ทั้งนี้ บนเรือลำดังกล่าวมีลูกเรือทั้งสิ้น 623 คน หนึ่งในนั้นเป็นล่ามชาวญี่ปุ่น และไม่มีผู้โดยสาร รัฐบาลญี่ปุ่นยังปฏิเสธให้ข้อมูลเกี่ยวกับสัญชาติของลูกเรือทั้งหมด แต่เผยเพียงว่าเรือลำนี้เดินทางมาจอดเทียบท่าในเมืองนางาซากิเกือบ 3 เดือนแล้ว และยืนยันว่าไม่มีใครลงจากเรือตั้งแต่เดินทางมาถึง เดิมทีเรือมีกำหนดเข้าเทียบท่าเพื่อรับการซ่อมบำรุงที่จีน แต่ท้ายที่สุดเปลี่ยนแผนมายังญี่ปุ่นแทน เนื่องจากกังวลเรื่องการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
Nippon TV News 24 Japan
ประเด็นดังกล่าวเป็นเรื่องที่รัฐบาลญี่ปุ่นและหน่วยงานอีกหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกำลังดำเนินการตรวจสอบ ท่ามกลางการจับตาจากทั้งในและนอกประเทศ เนื่องจากเป็นกรณีเรือสำราญมีผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหมาลำที่ 2 แล้วซึ่งเข้าจอดเทียบท่าที่ญี่ปุ่น ต่อจากเรือสำราญ “ไดมอนด์ ปรินเซส” ซึ่งจอดที่เมืองโยโกฮามา เมื่อเดือนก.พ.ที่ผ่านมา พบผู้ป่วยนานาชาติ 712 คน รักษาหายแล้ว 645 คน และเสียชีวิตแล้ว 13 คน
นอกจากนี้ ระบบสาธารณสุขของญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับความตึงเครียดอย่างหนักจากวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 ที่ภายในประเทศมีการยืนยันผู้ป่วยแล้ว 11,950 คน รักษาหายแล้ว 1,424 คน แต่มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 299 คน.
เครดิตภาพ : AP
CR: สำนักข่าวไทย
