“แรงงานยุโรป” เกือบ 60 ล้านคน เสี่ยงตกงาน-พักงาน-ลดค่าจ้าง หากมาตรการคุมไวรัสยืดเยื้อ

วันที่ 21 เมษายน 2563 – 14:18 น. ประชาชาติธุรกิจ

REUTERS/Manuel Silvestri

สำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า McKinsey บริษัทที่ปรึกษาทางธุรกิจคาดการณ์ว่า อัตราการว่างงานในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรจะเพิ่มขึ้นเป็น 11% จากเดิมที่ระดับ 6% ซึ่งส่งผลให้มีแรงงานที่เสี่ยงได้รับผลกระทบมากเกือบ 60 ล้านตำแหน่งทั่วทั้งภูมิภาค อันเป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 โดยอัตราการว่างงานในภูมิภาคดังกล่าวจะยังคงอยู่ในระดับสูงเช่นนี้ หากสถาการณ์โรคระบาดยังคงยืดเยื้อต่อไป

McKinsey ยังวิเคราะห์ด้วยว่า ราวหนึ่งในสี่ของตำแหน่งงานทั้งหมดในสหภาพยุโรปและสหราชอาณาจักรมีความเสี่ยงที่จะถูกลดชั่วโมงการทำงาน ลดค่าจ้าง หรือถูกระงับการจ้างงานทั้งแบบชั่วคราวและถาวร โดยอาชีพที่จะไม่ได้รับผลกระทบมากนักคือ อาชีพที่ไม่ได้ติดต่อสื่อสากับผู้คนโดยตรงอย่างนักบัญชีและสถาปนิก รวมถึงอาชีพที่มีความจำเป็นอย่างตำรวจ

ตรงข้ามกับอาชีพที่มีความเสี่ยงจะได้รับผลกระทบสูงจากภาวะโรคระบาดอย่าง แคชเชียร์ พ่อครัว แรงงานก่อสร้าง พนักงานโรงแรม และนักแสดง ซึ่งเป็นอาชีพที่ต้องติดต่อกับผู้คนจำนวนมาก โดยผู้ที่ทำงานในบริษัทขนาดเล็กยิ่งมีความเสี่ยงมากขึ้น เนื่องจากธุรกิจได้รับผลกระทบหนักเช่นกัน

ในกรณีที่ยุโรปไม่สามารถควบคุมโรคระบาดได้ภายใน 3 เดือน และยังคงบังคับใช้มาตรการควบคุมโรคอย่างการล็อกดาวน์ต่อไป จะส่งผลให้อัตราว่างงานของยุโรปพุ่งสูงขึ้นที่ 11.2% ในปี 2021 ซึ่งจะต้องอาศัยระยะเวลาการฟื้นตัวกลับมาสู่ระดับปกตินานถึงปี 2024

McKinsey ยังเรียกร้องให้รัฐบาลและภาคธุรกิจดำเนินมาตรการอย่างรวดเร็วเพื่อรักษาตำแหน่งงาน โดยบริษัทควรลดค่าใช้จ่าย จัดระบบเวลาการทำงาน และให้ทำงานจากที่บ้านหากสามารถทำได้ ขณะที่รัฐบาลควรมีมาตรการค้ำประกันเงินกู้ให้กับภาคธุรกิจ การลดหย่อนภาษี และสนับสนุนการจ่ายค่าแรงพนักงานด้วย ซึ่งหลายประเทศในยุโรปได้ทำแล้ว

อย่างเช่น สหราชอาณาจักรได้ออกมาตรการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ด้วยการสนับสนุนการจ่ายเงินเดือนใช้กับพนักงาน 80% แต่ไม่เกิน 2,900 ดอลลาร์สหรัฐ เป็นเวลา 3 เดือน เช่นเดียวกันกับเยอรมนีและฝรั่งเศสที่มีมาตรการดังกล่าวเช่นเดียวกัน นอกจากนี้สหภาพยุโรปยังมีมาตรการบรรเทาผลกระทบจากโรคระบาดในงบประมาณ 110,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อสนับสนุนการจ่ายค่าแรงและป้องกันการเลิกจ้างพนักงานด้วย

“การปกป้องตำแหน่งงานที่มีความเสี่ยงในสถานประกอบการที่ยังคงมีฐานะทางเศรษฐกิจดีและยังดำเนินกิจการอยู่เป็นสิ่งที่จำเป็น การสูญเสียงานเหล่านั้นไม่เป็นจะส่งผลกระทบในระดับบุคคล แต่ยังเป็นความเสียหายทางเศรษฐกิจในภาพรวมด้วย” รายงานของ McKinsey ระบุ

CR: ประชาชาติธุรกิจ