อังคารที่ 21 เมษายน 2563 เวลา 11.58 น. เดลินิวส์

องค์การอนามัยโลกเห็นด้วยกับการผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ที่หลายประเทศใช้เพื่อควบคุมสถานการณ์โควิด-19 อย่างเป็นลำดับขั้น และแสดงความกังวลกับสถานการณ์การแพร่ระบาดในญี่ปุ่นและสิงคโปร์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 21 เม.ย. ว่านพ.ทาเคชิ คาไซ ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ประจำภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก แถลงเมื่อวันอังคาร เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในภูมิภาค ว่ารัฐบาลหลายประเทศกำลังพิจารณาเกี่ยวกับมาตรการล็อกดาวน์ที่บังคับใช้มาแล้วนานระยะหนึ่ง และมีความเข้มงวดมากน้อยแตกต่างกันไป ว่าควรยกเลิกทั้งหมดในคราวเดียว หรือผ่อนคลายเป็นระยะ
ทั้งนี้ มุมมองของดับเบิลยูเอชโอเห็นว่า ควรใช้วิธียืดหยุ่นอย่างเป็นระบบและค่อยเป็นค่อยไป ควบคู่ไปกับการเฝ้าระวังโรคในระดับสูงต่อไป เนื่อจากตราบใดที่เชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ยังคงวนเวียนอยู่ ไม่มีประเทศใดบนโลกที่มีประสิทธิภาพพร้อมระดับสูงสุด ในการรับมือกับการแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง ที่จะมีผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็นจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง และทุกภาคส่วนในสังคมต้องมีความพร้อมและยอมรับรูปแบบการใช้ชีวิต “ซึ่งจะไม่เหมือนเดิม” อีกต่อไปด้วย
ขณะที่แม้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในภูมิภาคแปซิฟิกตะวันตก ที่ประเทศในกลุ่มรวมถึงจีน เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ ฟิลิปปินส์ เวียดนาม และมาเลเซีย “รุนแรงน้อยกว่า” เมื่อเทียบกับสถานการณ์ในสหรัฐและอีกหลายประเทศในทวีปยุโรป แต่นพ.คาไซกล่าวว่าดับเบิลยูเอชโอมีความวิตกกังวลกับสถานการณ์ในญี่ปุ่นและสิงคโปร์ ซึ่งมีการพบผู้ป่วยใหม่จำนวนมากทุกวัน แต่สถานการณ์ในสิงคโปร์เป็นการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนในวงจำกัด คือตามหอพักแรงงานต่างด้าว ส่วนสถานการณ์ในญี่ปุ่น “ยังไม่ถึงระดับ” แพร่ระบาดเป็นวงกว้างภายในชุมชน
กระนั้นยังมีอีกหลายประเทศในภูมิภาคที่เผชิญกับการแพร่ระบาดของโรคอื่นเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นโปลิโอ หัด และหัดเยอรมัน การจัดการสถานการณ์โรคโควิด-19 ต้องไม่ให้กระทบกับโรคระบาดประจำถิ่นเหล่านี้ มิเช่นนั้นมีความเสี่ยงสูงที่ระบบสาธารณสุขในพื้นที่จะล่มสลาย.
เครดิตภาพ : REUTERS
CR: เดลินิวส์
