จันทร์ที่ 20 เมษายน 2563 เวลา 07.26 น. เดลินิวส์

สหรัฐมีผู้เสียชีวิตสะสมจากโควิด-19 มากกว่า 40,000 คน และป่วยสะสมอีกมากกว่า 750,000 คน เป็นสถิติสูงที่สุดในโลก ท่ามกลางแรงกดดันที่เพิ่มขึ้นเรื่องการยุติมาตรการล็อกดาวน์
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 19 เม.ย. ว่าศูนย์ข้อมูลโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ในรัฐแมริแลนด์ รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 ในสหรัฐ ว่าแม้มีผู้ได้รับการรักษาหายแล้วมากกว่า 71,000 คน แต่ผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นมากกว่า 40,000 คนแล้ว จากจำนวนผู้ป่วยสะสมมากกว่า 750,000 คน
ทั้งนี้ สหรัฐยืนยันผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 คนแรก เมื่อวันที่ 29 ก.พ. ที่ผ่านมา แต่หลังจากนั้นเพียง 38 วัน ผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วเป็นมากกว่า 10,000 คน เมื่อวันที่ 6 เม.ย. และพุ่งสู่ 20,000 คนภายในเวลาเพียง 5 วันหลังจากนั้น และจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มอีกแบบก้าวกระโดดจาก 30,000 คนเป็น 40,000 คน ภายในเวลาเพียง 4 วัน หลังทางการรัฐนิวยอร์กรายงานผู้เสียชีวิตที่อาจเป็นผลจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนา แต่ไม่ได้ผ่านการตรวจคัดกรองมาก่อน
ขณะที่สถิติผู้ป่วยสะสมเพิ่มขึ้น 2 เท่าภายในเวลาเพียง 13 วัน สู่ระดับ 750,000 คน โดยรัฐนิวยอร์กยังคงวิกฤติที่สุด มีผู้ป่วยสะสมมากกว่า 247,000 คน เพิ่มขึ้นอย่างน้อย 6,174 คนในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุด และผู้เสียชีวิตสะสมเพิ่มเป็นอย่างน้อย 18,298 คน หลังมีการยืนยันอีก 627 คน โดยมีผู้ได้รับการรักษาหายแล้วอย่างน้อย 42,185 คน
ตอนนี้แทบทุกฝ่ายในสหรัฐพุ่งประเด็นไปที่การผ่อนคลายหรือยุติมาตรการล็อกดาวน์ ที่แม้ไม่มีคำสั่งระดับรัฐบาลกลาง แต่มี 42 รัฐจากทั้งหมด 50 รัฐและกรุงวอชิงตัน บังคับใช้มาตรการปิดเมืองในระดับเข้มงวดมากน้อยแตกต่างกันไป และส่วนใหญ่ยังไม่มีนโยบายยกเลิกทั้งหมด กลายเป็นความตึงเครียดระหว่างประชาชนกับรัฐบาลท้องถิ่นของหลายรัฐ ส่วนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ เผยแนวทาง 3 ขั้นเพื่อปูทางสู่การเปิดเศรษฐกิจของประเทศ และยืนยันจะเพิ่มการผลิตเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับภารกิจโควิด-19 ให้มากขึ้นอีก.
เครดิตภาพ : AP, REUTERS
CR: เดลินิวส์
