ศุกร์ที่ 17 เมษายน 2563 เวลา 10.55 น. เดลินิวส์

ประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต กล่าวว่าหากชาวฟิลิปปินส์ยังคงละเมิดคำสั่งล็อกดาวน์ “เป็นจำนวนมาก” แบบนี้ต่อไป เขาจะให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงใช้มาตรการควบคุมในระดับเข้มงวดไม่ต่างจากกฎอัยการศึก
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ 17 เม.ย.ว่าประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตร์เต แถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติ เมื่อคืนวันพฤหัสบดี ว่าเขาจะสั่งให้ทหารและตำรวจ “ดำเนินมาตรการเข้มงวด” เพื่อให้ประชาชนปฏิบัติตามแนวทางระยะห่างทางสังคม และคำสั่งเคอร์ฟิว “ด้วยความเป็นระเบียบเรียบร้อย” และ “เคร่งครัด”
INQUIRER.net
ทั้งนี้ ผู้นำฟิลิปปินส์กล่าวว่า นับตั้งแต่เริ่มบังคับใช้มาตรการล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการแพร่ระบาดในประเทศของโรคโควิด-19 เมื่อกลางเดือนที่แล้ว และจะสิ้นสุดสิ้นเดือนนี้ ตำรวจจับกุมผู้ละเมิดมาตรการเคอร์ฟิวและระยะห่างทางสังคมได้มากกว่า 120,000 คน ส่วนใหญ่เป็นการลักลอบจับกลุ่มดื่มเครื่องดื่มแอลกฮอล์และการล้อมวงชนไก่ ดูเตร์เตกล่าวว่าระดับความเข้มข้นของการบังคับใช้มาตรการทางสังคมโดยทหารและตำรวจ “ไม่ต่างอะไรกับกฎอัยการศึก” ซึ่งในความเป็นจริงเขาไม่ประสงค์สั่งการแบบนี้ แต่ประชาชน “เลือกเอง”
อนึ่ง ผู้นำฟิลิปปินส์เรียกเสียงฮือฮาและคำวิจารณ์จากหลายฝ่ายทั้งในและต่างประเทศ ด้วยการกล่าวเมื่อช่วงต้นเดือนนี้ ว่าหากเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงตกเป็นฝ่ายถูกข่มขู่คุกคามจากบุคคลซึ่งเจตนาฝ่าฝืนมาตรการล็อกดาวน์ แล้วการเจรจาอย่างประนีประนอมไม่เป็นผล “สามารถยิงได้เลย”
ปัจจุบันฟิลิปปินส์มีผู้ป่วยสะสมจากโรคโควิด-19 อย่างน้อย 5,660 คน เป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสะสมมากที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยมีผู้ได้รับการรักษาหายอย่างน้อย 435 คน และเสียชีวิตแล้ว 362 คน.
เครดิตภาพ : AP, REUTERS
CR: เดลินิวส์
