พฤหัสบดีที่ 16 เมษายน 2563 เวลา 09.33 น. เดลินิวส์

ชาวอเมริกันซึ่งมีคุณสมบัติตามเกณฑ์ของรัฐบาลสหรัฐ เริ่มได้รับเงินเยียวยาครั้งเดียวโดยเฉลี่ยเกือบ 40,000 บาท เพื่อการใช้ชีวิตในช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิด-19

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 15 เม.ย.ว่าสำนักงานสรรพากรแห่งชาติของสหรัฐออกแถลงการณ์ว่า ชาวอเมริกันซึ่งมีคุณสมบัติผ่านเกณฑ์ทยอยได้รับเงินช่วยเหลือครั้งเดียวจากรัฐบาลตั้งแต่วันพุธที่ 15 เม.ย. เพื่อการดำรงชีวิตในช่วงวิกฤติโรคระบาดโควิด-19 โดยมาตรการทางเศรษฐกิจดังกล่าวเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณฉุกเฉิน 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 65.5 ล้านล้านบาท )

Secretary Mnuchin says more than 80 million people should receive their stimulus checks by Wednesday and gives directions on what to do if you do not receive your check by that day pic.twitter.com/NcxatTEOBv

— QuickTake by Bloomberg (@QuickTake) April 13, 2020

ทั้งนี้ นายสตีฟ มนูชิน รมว.กระทรวงการคลังของสหรัฐ อธิบายว่าการมอบเงินช่วยเหลือมีทั้งการโอนเข้าสู่บัญชีโดยตรงของบุคคลหรือครัวเรือนซึ่งลงทะเบียนไว้กับสำนักงานสุลกากรแห่งชาติ ซึ่งมีผู้ฝากบัญชีไว้มากกว่า 80 ล้านคน แต่หากไม่ได้ลงทะเบียนดังกล่าว รัฐบาลจะส่งเป็นเช็คให้ทางไปรษณีย์ แม้อาจใช้เวลานาน แต่ยืนยันว่าได้รับครบทุกครัวเรือน

The $1,200 stimulus checks are arriving. People are mostly spending them on food https://t.co/JF7QeDS3X7

— The Washington Post (@washingtonpost) April 14, 2020

ขณะเดียวกัน มนูชินอธิบายเกณฑ์การจัดสรรเงินเยียวยา ว่า “ครอบครัวขนาดมาตรฐาน” ที่ประกอบด้วย พ่อ แม่ และลูก 2 คน จะได้รับเงินช่วยเหลือเหมาจ่าย 3,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 98,220 บาท ) ส่วนรายบุคคลได้รับเงินช่วยเหลือสูงสุด 1,200 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 39,288 บาท )  แต่หากมีรายได้ส่วนบุคคลต่อปีเกิน 90,000 ดอลลลาร์สหรัฐ ( ราว 2.9 ล้านบาท )  และเกิน 198,000 ดอลลาร์สหรัฐ ( ราว 6.4 ล้านบาท ) ในฐานะคู่สมรส จะไม่ถือว่าเข้าข่ายได้รับเงินช่วยเหลือ

อนึ่ง การมอบความช่วยเหลือด้านการเงินของรัฐบาลทรัมป์ให้แก่ประชาชนในครั้งนี้ เกิดขึ้นท่ามกลางภาวะตกต่ำที่สุดของเศรษฐกิจสหรัฐ นับตั้งแต่สิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่สอง โดยนับตั้งแต่ต้นเดือนนี้มีชาวอเมริกันมากกว่า 17 ล้านคนขึ้นทะเบียนเป็นผู้ว่างงานเพื่อขอรับสวัสดิการกับกระทรวงแรงงาน.

เครดิตภาพ : REUTERS

CR: เดลินิวส์