อังคารที่ 14 เมษายน 2563 เวลา 07.15 น. เดลินิวส์

รัฐบาลมาเลเซียเผยว่ามีชุดป้องกันส่วนบุคคลให้กับบุคลากรการแพทย์พอใช้อีกประมาณ 2 สัปดาห์ และยืนยันว่าธุรกิจที่ผ่อนผันให้เปิดในช่วงปิดเมืองยังไม่รวมร้านทำผมและตลาด

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 14 เม.ย.ว่านพ.นูร์ ฮิชาม อับดุลเลาะห์ รมว.กระทรวงสาธารณสุขของมาเลเซีย กล่าวเกี่ยวกับภารกิจของบุคลากรการแพทย์ ในการต่อสู่กับโรคระบาดโควิด-19 ว่าความต้องการชุดป้องกันส่วนบุคคล ( พีพีอี ) เพิ่มขึ้นมากถึง 10 เท่าเมื่อเทียบกับช่วงเวลาปกติ การที่พีพีอีเป็นสิ่งที่ใช้ได้เพียงครั้งเดียว และในหลายกรณีต้องมีการเปลี่ยนมากกว่า 1 ครั้งต่อวัน  ความต้องการพีพีอีจึงแตกต่างกับเครื่องมือแพทย์ชนิดอื่น อาทิ เครื่องช่วยหายใจ ที่เมื่อมีแล้วเป็นอันจบ

The Star

ทั้งนี้ นพ.นูร์ ฮิชาม กล่าวว่าปริมาณของพีพีอีที่มาเลเซียมีอยู่ ณ ปัจจุบัน เพียงพอใช้งานอีกประมาณ 2 สัปดาห์เท่านั้น ซึ่งรัฐบาลกำลังดำเนินการตามทุกวิถีทางเพื่อจัดหาพีพีอีให้เพียงพอกับความต้องการของบุคลากรการแพทย์ เพื่อฝ่าฝันวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้ และแจกจ่ายอย่างทั่วถึงที่สุด โดยเฉพาะที่รัฐซาราวักและรัฐซาบาห์

ตามสถิติของรัฐบาลมาเลเซียระบุการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 แบบเป็นกลุ่มก้อนในอย่างน้อย 25 แห่งทั่วประเทศ หนึ่งในนั้นคือการแพร่ระบาดภายในมัสยิดศรี เปตาลิง ในกรุงกัวลาลัมเปอร์ ระหว่างวันที่ 27 ก.พ. ถึง 1 มี.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกลายเป็นการแพร่ระบาดแบบกลุ่มก้อนขนาดใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้

ด้านนายอิสมาอิบ ยาคอบ รมว.กระทรวงกลาโหมของมาเลเซีย กล่าวเพิ่มเติมเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการเคลื่อนไหวของประชาชน ที่มีการขยายระยะเวลาบังคับใช้ต่อไปจนถึงวันที่ 28 เม.ย.นี้ แต่จะมีการผ่อนผันให้กิจการบางอย่างสามารถกลับมาเปิดดำเนินการได้ ว่ารัฐบาลกำลังประเมินสถานการณ์และหารือร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในเรื่องดังกล่าว แต่ในเบื้องต้นยืนยันว่าร้านตัดผมและสถานเสริมความงาม และตลาดขนาดใหญ่จะยังไม่ได้รับอนุญาตให้กลับมาเปิดบริการ เนื่องจากยังมีความกังวลเกี่ยวกับการกำหนดระยะห่างทางสังคม.

เครดิตภาพ : AP

CR:เดลินิวส์