จันทร์ที่ 13 เมษายน 2563 เวลา 08.00 น. เดลินิวส์

องค์การอนามัยโลกยืนยันผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสอีโบลาในดีอาร์คองโกเพิ่มอีก 2 คน หนึ่งในนั้นเป็นทารกอายุเพียง 11 เดือน ส่งผลให้ทุกฝ่ายต้อง “นับหนึ่งใหม่” เพื่อพยายามฝ่าวิกฤติโรคระบาดครั้งนี้
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ เมื่อวันที่ 13 เม.ย.ว่าองค์การอนามัยโลก ( ดับเบิลยูเอชโอ ) ออกแถลงการณ์เมื่อวันอาทิตย์ เกี่ยวกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสอีโบลาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโก ( ดีอาร์คองโก ) ว่าผู้ป่วยสะสมนับตั้งแต่เดือนส.ค. 2561 เพิ่มเป็นอย่างน้อย 3,805 คน และเสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 2,264 คน
ทั้งนี้ ผู้เสียชีวิตคนล่าสุดเป็นทารกเพศหญิงอายุเพียง 11 เดือน จากเมืองเบนี ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ โดยเด็กน้อยเสียชีวิตเมื่อวันอาทิตย์ หลังเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลแห่งเดียวกับชายวัย 26 ปี ซึ่งเสียชีวิตเมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา เพียงวันเดียวหลังได้รับการยืนยันว่าติดเชื้อไวรัสอีโบลา
อนึ่ง ยังไม่มีข้อมูลยืนยันชัดเจน ว่าทารกคนดังกล่าวรับเชื้อได้อย่างไรและเมื่อใด เช่นเดียวกับผู้ป่วยชายอายุ 26 ปี ว่าติดเชื้อได้อย่างไร แต่ดับเบิลยูเอชโอกักตัวผู้ต้องสงสัยสัมผัสใกล้ชิดกับผู้เสียชีวิตชายอย่างน้อย 215 คน อย่างไรก็ตาม รัฐบาลดีอาร์คองโกยอมรับว่า เป็นสถานการณ์ที่ทำให้ทุกฝ่ายต้องกลับมาเฝ้าระวัง “ในระดับสูงสุด” อีกครั้ง
สำหรับการกลับมาพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตจากเชื้อไวรัสอีโบลาในดีอาร์คองโกทั้งสองคน เกิดขึ้น “ในช่วงโค้งสุดท้าย” ก่อนถึงมาตรฐานของดับเบิลยูเอชโอที่ระบุว่า หากภายในเวลา 42 วันนับจากการที่ผู้ป่วยคนล่าสุดได้รับการรักษาจนหายดี ไม่มีการพบผู้ป่วยเพิ่มอีก ดับเบิลยูเอชโอจะประกาศให้ภาวะฉุกเฉินจากเชื้อไวรัสอีโบลาครั้งนี้ ที่ยืดเยื้อตั้งแต่เดือนส.ค.ปีที่แล้ว “สิ้นสุดอย่างเป็นทางการ” และยุติคำสั่งสถานการณ์ฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ ซึ่งกรอบระยะเวลาของดีอาร์คองโกคือภายในวันที่ 12 เม.ย. นับจากวันที่ 3 มี.ค. ซึ่งเป็นวันที่ผู้ป่วยคนล่าสุดหายดีและออกจากโรงพยาบาล
นอกจากนี้ ทวีปแอฟริกากำลังเผชิญกับวิกฤติโรคโควิด-19 ด้วย โดยมีรายงานการพบผู้ติดเชื้อใน 52 จาก 54 ประเทศ ซึ่งดีอาร์คองโกเป็นหนึ่งในประเทศที่พบผู้ป่วย ส่วนคอโมโรสและเลโซโทเป็นเพียง 2 ประเทศที่ยังไม่พบผู้ติดเชื้อ.
เครดิตภาพ : GETTY IMAGES
CR:เดลินิวส์
