Apr 9, 2020( Last update Apr 9, 2020 21:09 )VoiceTV

บังกลาเทศดำเนินมาตรการล็อกดาวน์ปิดเมืองค็อกซ์บาซาร์ซึ่งเป็นที่ลี้ภัยของชาวโรฮิงญากว่า 1 ล้านคน ที่หลบหนีการปราบปรามมาจากเมียนมา เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
ก่อนหน้านี้ผู้เชี่ยวชาญได้เตือนว่าโรคโควิด-19 อาจแพร่ระบาดไปอย่างรวดเร็วในค่ายผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญาซึ่งมีสภาพความเป็นอยู่แออัด อย่างไรก็ตาม ยังไม่มีการยืนยันพบผู้ติดเชื้อในค่ายเหล่านี้ แต่พบผู้ติดเชื้อ 1 รายในพื้นที่ใกล้เคียงเมื่อเดือนที่ผ่านมา และในขณะที่ตัวเลขจำนวนผู้ติดเชื้อยืนยันเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัว เป็นกว่า 200 รายทั่วประเทศในช่วง 5 วันที่ผ่านมา รวมถึงมีผู้เสียชีวิตแล้ว 20 ราย ก็ทำให้ทางการมีคำสั่งล็อกดาวน์เมืองค็อกซ์บาซาร์เมื่อช่วงคืนวันพุธที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยระบุว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ภายใต้การปิดเมืองอย่างสมบูรณ์ ห้ามเข้าหรือออกจากเมืองได้จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และจะดำเนินการทางกฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ที่ละเมิดคำสั่ง พร้อมย้ำว่ากฎเหล่านี้บังคับใช้เพื่อประโยชน์สาธารณะ
รายงานระบุว่าตำรวจและทหารได้ตั้งเครื่องกีดขวางปิดถนนหลักเส้นต่างๆ ของเมืองค็อกซ์บาซาร์ซึ่งมีประชากรประมาณ 3.4 ล้านคน รวมถึงผู้ลี้ภัยชาวโรฮิงญา โดยในวันนี้เจ้าหน้าที่ยังได้ตรวจตราทั้งภายในและรอบค่ายผู้ลี้ภัย ขณะที่คณะกรรมาธิการด้านผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศระบุว่า มีการจำกัดการเคลื่อนย้ายเจ้าหน้าที่ให้ความช่วยเหลือด้วยเช่นกัน ซึ่งนี่เป็นการตัดกำลังคนลงถึงร้อยละ 80 มีเพียงการจัดหาอาหารฉุกเฉินและบริการทางการแพทย์เท่านั้นที่สามารถดำเนินการต่อได้ในค่ายผู้ลี้ภัยและต้องเป็นไปด้วยความระมัดระวังขั้นสุด ส่วนใครก็ตามที่เพิ่งมีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ จะถูกห้ามเข้าไปในค่ายจนกว่าจะถูกกักตัวเฝ้าระวังอาการเสร็จสิ้น
หน่วยงานให้ความช่วยเหลือกังวลว่าหากมีการระบาดภายในค่ายผู้ลี้ภัยโรฮิงญาในค็อกซ์บาซาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในค่ายผู้ลี้ภัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก จะทำให้สถานการณ์รุนแรงเนื่องจากความหนาแน่นของผู้คนที่อาศัยอยู่ในค่ายและการขาดแคลนอุปกรณ์ทางการแพทย์ โฆษกของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ หรือ UNHCR ระบุว่าเมืองค็อกซ์บาซาร์มีขีดความสามารถจำกัดอย่างมากในการรักษาดูแลผู้ป่วยหนัก แต่ก่อนหน้านี้ รัฐบาลบังกลาเทศก็เผยว่า กำลังดำเนินการปรับปรุงเตียงในโรงพยาบาล ห้องแยกเดี่ยวและสถานที่กักตัว
มีชาวโรฮิงญากว่า 740,000 คน ที่หลบหนีการปราบปรามของกองทัพเมียนมาเมื่อปี 2560 ข้ามฝั่งมายังบังกลาเทศและอาศัยอยู่ในค่ายผู้ลี้ภัยในเมืองค็อกซ์บาซาร์ ซึ่งก่อนหน้านั้นก็มีผู้ลี้ภัยประมาณ 200,000 คน อาศัยอยู่ก่อนแล้ว ด้านกลุ่มสิทธิมนุษยชนและนักกิจกรรมได้แสดงความกังวลว่าค่ายผู้ลี้ภัยเหล่านี้จะกลายเป็นจุดที่มีการเผยแพร่ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องเกี่ยวกับการระบาดของโควิด-19 เนื่องจากมีการห้ามใช้อินเทอร์เน็ตเมื่อเดือนกันยายนที่ผ่านมา โดยเมื่อเดือนที่แล้วมีรายงานว่าชาวโรฮิงญาหลายหมื่นคนได้ลุกขึ้นมาสวดมนต์กลางดึกเพราะมีข่าวลือแพร่ออกไปว่า การกระทำดังกล่าวจะช่วยหยุดการระบาดของไวรัส ซึ่งแอมเนสตี้ อินเตอร์เนชั่นแนล เตือนว่าข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโควิด-19 ถูกส่งไปไม่ถึงผู้ลี้ภัยจำนวนมากในค่าย ขณะที่คณะกรรมาธิการผู้ลี้ภัยของบังกลาเทศบอกว่าได้ขอรัฐบาลถอนการจำกัดอินเทอร์เน็ตในพื้นที่
อ้างอิง The Straits Times/Aljazeera
CR: VoiceTV
