อังคารที่ 7 เมษายน 2563 เวลา 06.52 น. เดลินิวส์

ผู้เสียชีวิตจากการติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในสหรัฐเพิ่มเป็นมากกว่า 10,000 คน ขณะที่เริ่มมีการเก็บตัวอย่างเลือดจากประชาชนเพื่อประเมินจำนวนผู้ป่วยในภาพรวม

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ว่าศูนย์ข้อมูลเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนาสาของมหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ ที่เมืองบัลติมอร์ ในรัฐแมริแลนด์ รายงานสถานการณ์โรคโควิด-19 จากเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ว่าสหรัฐพบผู้เสียชีวิตอีกอย่างน้อย 1,182 คน เพิ่มจำนวนผู้เสียชีวิตสะสมเป็นอย่างน้อย 10,798 คน นับเป็นประเทศที่ 3 ของโลกซึ่งมีผู้เสียชีวิตจากโรคโควิด-19 มากกว่า 10,000 คน ต่อจากอิตาลีและสเปน

'Patients coming crying and screaming, that they don't want to be sent to ER' – doctor at #NYC hospital#COVID19 pic.twitter.com/FyWZepxw0w

— Ruptly (@Ruptly) April 6, 2020

ขณะที่การพบผู้ป่วยใหม่ในรอบ 24 ชั่วโมงล่าสุดมีอีก 27,585 คน เพิ่มสถิติสะสมในส่วนนี้เป็นอย่างน้อย 364,258 คน โดยมีผู้ได้รับการรักษาหายแล้ว 19,536 คน โดยพื้นที่พบผู้เสียชีวิตและผู้ป่วยมากที่สุดยังคงเป็นรัฐนิวยอร์ก ซึ่งมีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 4,758 คน เพิ่มขึ้น 599 คนในรอบ 1 วัน จากจำนวนผู้ป่วยสะสม 130,689 คน

ทั้งนี้ มีรายงานด้วยว่า สหรัฐเริ่มเก็บตัวอย่างเลือดจากประชาชนจำนวนหนึ่งในประเทศ เพื่อตรวจหาเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ และใช้เป็นการคาดการณ์ทางสถิติ เกี่ยวกับความน่าจะเป็นจำนวนผู้ติดเชื้อโดยรวม ความเคลื่อนไหวดังกล่าวเกิดขึ้นหลังสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาของสหรัฐ อนุมัติให้บริษัทเซลเล็กซ์ ที่รัฐนอร์ทแคโรไลนา ทำการทดสอบด้านวิทยาเซรุ่ม ด้วยการตรวจแอนติบอดีในเลือด.

เครดิตภาพ : AP

CR: เดลินิวส์