อินโดนีเซียสั่งประชาชนสวมหน้ากากเมื่ออยู่นอกบ้าน

จันทร์ที่ 6 เมษายน 2563 เวลา 19.08 น. เดลินิวส์

นับจากนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ประชาชนในอินโดนีเซียต้องสวมหน้ากากที่ภาครัฐขอให้เป็นหน้ากากผ้า เมื่อออกจากบ้าน เพื่อลดความเสี่ยงของการติดและแพร่เชื้อโควิด-19

สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงจาการ์ตา ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อวันที่ 6 เม.ย.ว่านายอัคหมัด ยูเรียนโต โฆษกรัฐบาลอินโดนีเซีย แถลงเมื่อวันจันทร์ ว่านับจากนี้เป็นต้นไปจนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง ประชาชนต้องสวมหน้ากากที่ปกปิดจมูกและปากอย่างมิดชิดเมื่อออกนอกเคหสถาน เนื่องจากตอนนี้บ้านเมืองกำลังเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

ทั้งนี้ ยูเรียนโตกล่าวว่าหน้ากากอนามัยทางการแพทย์และหน้ากากเอ็น95 ควรสงวนไว้ให้บุคลากรด้านสาธารณสุขก่อน โดยประชาชนทั่วไปสวมเพียงหน้ากากผ้าที่สะอาดและซักทุกวัน ร่วมกับการล้างมืออย่างสม่ำเสมอถือว่ามีความเพียงพอ อย่างไรก็ตาม การที่รัฐบาลต้องการให้ประชาชนสวมหน้ากากเมื่ออยู่นอกบ้านนั้น เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการที่ผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่อาจไม่ได้แสดงอาการออกมาอย่างชัดเจนทุกคน แต่ยังสามารถเป็นพาหะนำโรคให้ติดต่อกับบุคคลอื่นได้

ขณะเดียวกัน ยูเรียนโตแถลงเกี่ยวกับสถิติของโรคโควิด-19 ในอินโดนีเซีย ว่าผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 209 คน โดยในรอบ 24 ชั่วโมงที่ผ่านมามีผู้เสียชีวิต 11 คน ส่วนผู้ป่วยใหม่พบอีก 218 คน เพิ่มจำนวนผู้ป่วยสะสมเป็นอย่างน้อย 2,491 คน และรักษาหายแล้ว 192 คน

อนึ่ง รัฐบาลอินโดนีเซียยอมรับต้องเร่งขยายขอบเขตการตรวจโรคให้กับประชาชนอีก เนื่องจากอัตราส่วนการตรวจโรคให้กับประชาชนอยู่ที่เพียง 36 คนต่อประชากร 1 ล้านคนเท่านั้น ซึ่งถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับจำนวนประชากรในอินโดนีเซียที่มีจำนวน 270 ล้านคน.

เครดิตภาพ : GETTY IMAGES, REUTERS

CR: เดลินิวส์