อังคารที่ 31 มีนาคม 2563 เวลา 13.24 น. เดลินิวส์

รัฐบาลเวียดนามใช้มาตรการระยะห่างทางสังคมเป็นเวลา 15 วัน เพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดภายในชุมชนของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่
สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากกรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม เมื่อวันที่ 31 มี.ค.ว่านายเหวียน ซวน ฟุก นายกรัฐมนตรีเวียดนาม แถลงว่ารัฐบาลยังไม่มีนโยบายใช้มาตรการ “ล็อกดาวน์” กรุงฮานอยและเมืองโฮจิมินห์ ในระดับเดียวกับที่รัฐบาลประเทศใช้กับเมืองใหญ่ของตัวเอง เพื่อหวังว่าจะมีประสิทธิภาพในการยับยั้งการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ “โควิด-19”
อย่างไรก็ตาม เวียดนามมาถึงทางสองแพร่งของภารกิจต่อสู้กับโรคดังกล่าว เนื่องจากมีความเสี่ยงสูงมากที่การแพร่ระบาดของโรคภายในชุมชนจะทวีความรุนแรง จึงต้องการทั้งความร่วมมือจากทุกฝ่ายและมาตรการที่เข้มงวด ด้วยเหตุนี้ นับตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนเข้าสู่วันที่ 1เม.ย. เป็นต้นไป ครอบคลุมระยะเวลา “อย่างน้อย” 15 วัน ประชาชนทุกคนต้องอยู่แต่ในบ้าน “ให้มากที่สุด” สามารถออกนอกเคหะสถานเฉพาะการไปซื้ออาหาร ยารักษาโรค ไปพบแพทย์ และการซื้อสิ่งของอื่นที่จำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตเท่านั้น และเมื่ออยู่นอกเคหะสถาน ทุกคนต้องอยู่ห่างกันไม่ต่ำกว่า 2 เมตร
สำหรับการทำงานขอให้เป็นการทำงานที่บ้าน ยกเว้นงานที่มีความจำเป็นยิ่งยวด หรือผู้ปฏิบัติงานในสายงานซึ่งไม่สามารถทำงานที่บ้านได้ ขณะที่ระบบขนส่งสาธารณะจะให้บริการอย่างจำกัดหรือถึงขั้นระงับชั่วคราว เพื่อให้ประชาชนอยู่ในเคหะสถาน เมืองของตัวเอง และจังหวัดของตัวเองให้มากที่สุด โดยไม่เดินทางข้ามเขต
ขณะเดียวกัน รัฐบาลพร้อมมอบความสนับสนุนระดับสูงสุดให้กับสถานพยาบาลทุกแห่งที่เป็น “แนวหน้า” ในการต่อสู้กับโรคระบาดครั้งนี้ และย้ำเตือนให้ทุกภาคส่วนพร้อมรับมือกับ “สถานการณ์เลวร้ายที่สุด” ปัจจุบันเวียดนามมีผู้ป่วยสะสมอย่างน้อย 204 คน รักษาหายแล้ว 55 คน โดยยังไม่มีผู้เสียชีวิต นับตั้งแต่มีการยืนยันผู้ป่วยคนแรกเมื่อวันที่ 23 ม.ค.ที่ผ่านมา.
เครดิตภาพ : AFP
CR: เดลินิวส์
